ตั้งรับอย่างมีวินัย ทางรอดวิกฤติโควิด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยกระดับมาตรการในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยกำหนดเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.2563 เป็นต้นไป โดยยกเว้นผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ การขนส่งเวชภัณฑ์ การขนส่งผู้ป่วย การขนส่งด้านพลังงาน และการขนย้ายประชาชนสู่พื้นที่ควบคุม ถือเป็นการประกาศยกระดับการควบคุมการระบาดครั้งสำคัญหลังจากพบผู้ติดเชื้อเกือบทุกจังหวัดแล้ว

การประกาศมาตรการดังกล่าวมีข้อยกเว้นให้กับผู้ที่มีความจำเป็นในการออกมาปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้านำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็น หรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทาง

จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะมีการประกาศที่เข้มงวดขึ้น เพื่อกำหนดให้ประชาชนอยู่ในที่พัก ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การประกาศที่เข้มงวดได้เปิดช่องให้ผู้ที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางออกนอกที่พักได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการควบคุมการระบาด รวมทั้งไม่ให้กระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการขนส่งสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ก็ไม่ควรที่ผู้อื่นจะใช้ข้ออ้างนี้ในการออกมานอกที่พัก เพราะไม่อย่างนั้นมาตรการที่ออกมาก็จะไม่ได้ผล

หากย้อนไปดูการปิดเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นต้นตอของการระบาดโรคโควิด-19 ได้มีมาตรการควบคุมการออกนอกที่พักอย่างเข้มงวด โดยรถขนส่งสินค้าได้รับการยกเว้นให้วิ่งส่งสินค้าได้ แต่จะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐจึงจะนำรถออกมาขนส่งสินค้าได้ ในขณะที่การเดินทางขนส่งถูกกำหนดเป็นโซนเพื่อจำกัดการเดินทางรถ และผู้ที่จะขนส่งสินค้าข้ามโซนจะต้องได้รับใบอนุญาตเช่นกัน แน่นอนว่าผู้ผลิตสินค้าปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางการกำหนดออกมาอย่างเคร่งครัด

ในขณะที่ประชาชนถูกกำหนดให้อยู่ในที่พัก และการออกมาซื้ออาหารกำหนดให้เป็นหน้าที่ของอาสาสมัครชุมชน ซึ่งจะคอยรับคำสั่งซื้อและเป็นผู้นำสินค้ามาส่งให้กับแต่ละบ้าน เพื่อเป็นการจำกัดผู้ที่จะออกมาในที่สาธารณะ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เมืองอู่ฮั่นสามารถควบคุมการระบาดได้ภายในเวลา 1 เดือน สิ่งที่ปรากฏขึ้นดังกล่าวจึงเป็นตัวอย่างที่สำคัญที่เราสามารถนำมาเป็นต้นแบบของการควบคุมโรค และถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อให้สถานการณ์การระบาดลดลงเร็วที่สุด