‘เงินบาท’อ่อนค่าทะลุ33บาทต่อดอลลาร์

‘เงินบาท’อ่อนค่าทะลุ33บาทต่อดอลลาร์

บาทอ่อนทะลุ33บาทต่อดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ3สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีมานี้อ่อนค่า9.2% เมื่อเทียบภูมิภาค หลังต่างชาติปรับลดสถานะถือครองหุ้นและตราสารหนี้ในตลาดประเทศเกิดใหม่ รวมถึง การสั่งซื้อภาคธุรกิจแย่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยตลาดการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS)  เปิดเผยว่า ในวันนี้เงินบาทปิดตลาดที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากระหว่างวันเงินบาทอ่อนค่าสูงสุดที่ 33.04 บาทต่อดอลลาร์และแข็งค่าสุดที่ 32.72 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 33 บาทต่อดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ3 สัปดาห์ และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอ่อนค่า 9.2%  เมื่อเทียบกับสกุลอื่นในภูมิภาค

โดยแรงขายหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติ ที่พยายามปรับสถานะการถือสินทรัพย์ในประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets )ลง จึงขายตราสารหนี้รวมถึงหุ้นต่อเนื่อง

ขณะที่ฝั่งส่งออกแทบไม่กลับมา โดยเชื่อว่าเร็วที่สุดอาจต้องรอไปจนถึงปลายเดือนเมษายน รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจตามรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็เห็นชัดว่า การสั่งซื้อแย่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

ดังนั้นช่วงนี้จึงไม่มีแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่ากลับได้มากนัก โดยสังเกตุได้ว่าทุกครั้งที่แข็งค่าจะแค่เกิดดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากทิศทางของตลาดหุ้นอเมริกาเท่านั้น

ดังนั้นระยะสั้น มองว่าเงินบาทอ่อนค่าได้มากที่สุดถึงระดับ 33.70 บาทต่อดอลลาร์ หรือคิดเป็นการอ่อนค่าต่อเนื่องอีก2% เพราะทั่วโลกกำลังเลือกใช้มาตรการชะลอกิจกรรมทางเศรษฐกิจในการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัส ระยะต่อไปจึงต้องระวังว่าจะมีบริษัทต่างๆ ทยอยผิดนัดชำระหนี้ตามมา ทำให้นักลงทุนทั่วโลก ต้องลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงลงอีก ยิ่งกดดันให้สกุลเงินประเทศเกิดใหม่ Emerging Markets และเงินบาทอ่อนค่าซ้ำซ้อน