นายกฯเตรียมตั้งปลัดคลังเป็นกรรมการใน 'ศบค.' ดูแลเรื่องงบประมาณสู้โควิด-19

นายกฯเตรียมตั้งปลัดคลังเป็นกรรมการใน 'ศบค.' ดูแลเรื่องงบประมาณสู้โควิด-19

นายกฯเตรียมตั้งปลัดกระทรวงการคลังเป็นกรรมการใน  ศบค. เพิ่ม ให้ดูแลการเบิกจ่ายงบประมาณ เยียวยาประชาชนสู้โควิด-19  

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยระหว่างการเป็นประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ "ศบค.โควิด-19" ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้(27 มี.ค.) โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวในช่วงแรกของการประชุมว่าในการทำงานของ ศบค.ได้มีการแต่งตั้งปลัดกระทรวงที่มีความรับผิดชอบในด้านต่างๆเข้ามาเป็นกรรมการแล้ว 5 กระทรวงได้แก่ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้เห็นว่าควรมีการแต่งตั้งปลัดกระทรวงการคลังให้เข้ามาเป็นกรรมการเพิ่มเติมอีก 1 คน เพื่อดูแลในเรื่องของงบประมาณ เพราะจะต้องมีการจัดสรร เบิกจ่าย งบประมาณในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และในระยะต่อไปต้องมีการเบิกจ่ายงบประมาณตามงานที่เพิ่มขึ้น เช่น การจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในการตั้งจุดตรวจในแต่ละจังหวัด เป็นต้น 

สำหรับการแบ่งหน้าที่และมอบหมายให้มีผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่ที่ 26 มีนาคม 2563  ได้มีการออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่4/2563 

ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหนผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน พนักงานเจ้าหน้ที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ สถานการณ์ฉุกเฉิน พนักงานเจ้าหน้ที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉิน

ข้อ 6 ให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วยผู้กำกับการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีเรียงตามลำดับการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีตามที่มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว และให้ปฏิบัติภารกิจตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ข้อ 3(1) ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสาธารณสุกุกเขดท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (2) ให้ปสัดกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหนผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่ราชการจังหวัด และผู้ว่ราขการกรุงเทพมหานคร

(3) ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมสินค้า(4) ให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหนผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการต่งประเทศ และการคุ้มดรอช่วยเหลือผู้มีสัญชาตีไทยในต่างประเทศ(5) ให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหัวหนผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ (6) ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหนผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง และ(7) ให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานงานทั่วไป