เปิด 'แผนที่ผู้ป่วยโควิด-19' 27 จังหวัด

เปิด 'แผนที่ผู้ป่วยโควิด-19' 27 จังหวัด

สธ.เผยผู้ป่วยโควิด-19 กระจายใน 27 จังหวัด มากสุดที่กทม.กว่า 200 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ในจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด ณ วันที่ 19 มีนาคม 2563 จำนวน 272 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่ 24 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ 213 ราย สมุทรปราการ 12 ราย เชียงใหม่ 7 ปัตตานี 6 ราย ชลบุรี 5 ราย ภูเก็ต 5 ราย ยะลา 3 ราย นครราชสีมา 2 ราย นราธิวาส 2 ราย ปทุมธานี 2 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย

158468438343


และจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วย 1 ราย ประกอบด้วย จ.เพชรบูรณ์ กระบี่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครปฐม นครศรีธรรมราช นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทุรสาคร สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี 


อย่างไรก็ตาม ในการยืนยันผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 มีจังหวัดใหม่ที่รายงานพบผู้ป่วยเพิ่ม อีก 3 จังหวัด ได้แก่ สงขลา 4 ราย นครสวรรค์ และนครนายก จังหวัดละ 1 ราย รวมทั้งสิ้นมีรายงานผู้ป่วยใน 27 จังหวัด

     ผู้สื่อข่าวถามว่าจากแผนที่จำนวนผู้ป่วยจะเห็นว่าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่บางจังหวัดมีผู้ป่วยเพียง 1 ราย ความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่แตกต่างกันหรือไม่ 

     นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ความเสี่ยงติดเชื้อในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน อย่างพื้นที่ภาคกลาง และหลายจังหวัด ความเสี่ยงมาจากสนามมวย และสถานบันเทิง ส่วนภาคใต้ตอนล่างเป็นผลมาจากการระบาดของประเทศมาเลเซียและมีคนไทยส่วนหนึ่งไปทำพิธีทางศาสนาที่นั่น ดังนั้นความเสี่ยงต่างๆ เห็นชัด ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศก็ไม่ต้องตระหนก แต่ให้ตระหนัก ตอนนี้มติครม.ชัดเจน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาปิดพื้นที่เสี่ยง ส่วนที่สองวิธีปฏิบัติไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ให้ปฏิบัติเหมือนกันทุกอย่างคืออันดับแรกต้องรู้จักวิธีการป้องกัน ไม่ควรใกล้ชิดผู้อื่น แยกของใช้ แยกสำรับอาหาร งดการเดินทางที่ไม่จำเป็นงดกิจกรรมสังคมที่มีคนหมู่มาก

         “ที่สำคัญมากที่สุดคือกรณีป่วยต้องรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัว และสังคมด้วยการไม่ไปไหนให้อยู่กับบ้าน ถ้าต้องไปสถานพยาบาลควรประสานล่วงหน้า ตามที่กรมการแพทย์และเครือข่ายสถานพยาบาลจัดให้มีคลินิกแยกเฉพาะเพื่อไม่ปะปนกับผู้ใช้บริการคนอื่น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคได้"นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าว