‘แคลิฟอร์เนีย’ สั่งประชาชนอยู่บ้าน สกัด ‘โควิด-19’

‘แคลิฟอร์เนีย’ สั่งประชาชนอยู่บ้าน สกัด ‘โควิด-19’

ผู้ว่าฯแคลิฟอร์เนีย ประกาศสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน สกัดการแพร่ระบาด “โควิด-19” คาด หากสถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ ภายใน 8 สัปดาห์จะมีผู้ติดเชื้อครึ่งหนึ่งของรัฐ

นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ให้ประชาชนของรัฐที่มีราว 40 ล้านคนอยู่แต่ในบ้าน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งจะมีผลทันที  ทั้งนี้ หากสถานการ์เลวร้ายลงกว่านี้ คาดว่า ภายใน 8 สัปดาห์จะมีผู้ติดเชื้อครึ่งหนึ่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย

“เราจำเป็นต้องลดการแพร่กระจายของไวรัสในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตนคิดว่า ควรต้องทำอะไรให้มากขึ้นกว่าเดิม” ผู้ว่าฯ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ด้าน นายเอริก การ์เซตติ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ก็ได้ออกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และจำกัดการทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19ในสหรัฐ เฉพาะที่รัฐแคลิฟอร์เนียว่า มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 700 ราย โดยแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับสามของสหรัฐ รองจากอันดับสอง รัฐวอชิงตันซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 1,376 ราย และอันดับหนึ่งรัฐนิวยอร์กซึ่งอยู่ที่อย่างน้อย 5,000 ราย

ขณะที่ นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เปิดเผยว่า นิวยอร์กมีเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพียงพอสำหรับการใช้งานได้เพียง 2-3 สัปดาห์

ทั้งนี้ นายบลาซิโอ ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งทหารมาช่วยสนับสนุนการแจกจ่ายเสบียงและความช่วยเหลืออื่น ๆ โดยขณะนี้ นิวยอร์ก ต้องการหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ 50 ล้านชิ้น ชุดสวมใส่ป้องกันร่างกายของบุคลากรในโรงพยาบาล 25 ล้านชุด และอุปกรณ์ช่วยหายใจ 15,000 เครื่อง