ปูมหลัง 'พิตตินันท์' เล่าพบ 'ศรสุวีร์' ปมฉาวกักตุนหน้ากากอนามัย

ปูมหลัง 'พิตตินันท์' เล่าพบ 'ศรสุวีร์' ปมฉาวกักตุนหน้ากากอนามัย

กลายเป็นคนดังในข่าวร้อน สำหรับ "พิตตินันท์ รักเอียด" หลังภาพว่อนโซเชียล คู่กับผู้ถูกกล่าวหาว่ากักตุนหน้ากากอนามัยนับล้าน เพื่อขายโก่งราคาฟันกำไร

ล่าสุด "พิตตินันท์" ได้ลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อกรณีดังกล่าว

ขณะเดียวกัน "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกโรงชี้แจงสังคมด้วย กรณี "พิตตินันท์ รักเอียด" ซึ่งยอมรับว่าเป็นทีมงานผู้ติดตามตนเอง แต่ส่วนตัวไม่เคยรู้จักพิตตินันท์ รู้เพียงว่า เป็นอดีตผู้สมัครส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะทำงานดูแลพื้นที่สุราษฎร์ธานี

กล่าวสำหรับ "พิตตินันท์ รักเอียด" หรือ "เทพ" อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 6 จ.สุราษฎร์ธานี ได้คะแนน 8,770 เสียงจากผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งอันดับที่ 2 นายภูมิ เทือกสุบรรณ รวมพลังประชาชาติไทย ได้คะแนน 17,261 เสียง และ อันดับที่ 1 คือ นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 40,672 เสียง

"พิตตินันท์" ให้สัมภาษณ์ในรายการ เนชั่น คนข่าวเข้ม เช้าวันที่ 9 มีนาคม 2563 ว่า ไม่รู้จักกับนายศรสุวีร์ผมไปพบคนอื่นครับ ไม่ได้ไปพบเขา ไปพบกับรุ่นน้องอีกคนนึง ไปคุยเรื่องอื่น เขามาทีหลัง ผมเองไม่รู้จักเขาขาเป็นเพื่อนกับรุ่นน้องอีกคนนึงเขามาขอถ่ายรูป เป็นเรื่องปกติผมไปกินข้าว ไม่ได้เกี่ยวกับหน้ากากเลย ผมไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้ไปเกี่ยวข้องได้ยังไง ต้องขอโทษด้วย เพราะว่าอาจจะเข้าใจผิดนั่งนิดเดียว ผมเองไม่ได้รู้จักอะไร ไม่ได้คุยอะไร ไม่ได้ไปอะไรเยอะ เพราะน้องเขามานั่งอยู่แปบเดียวเเล้วเขาก็ออกไป เเล้วผมก็นั่งอยู่คนเดียว เเล้วก็ทางคนที่ลงเฟซ เขาก็มาทีหลัง เเล้วเจอกันเเล้วผมก็กลับ ก็ไม่มีเนื้อหาอะไรเยอะ มันได้เป็นสาระอะไรเลย เเล้วก็ไม่รู้ว่ามาเป็นข่าว ลงเฟซได้ยังไงไม่รู้ผมเองก็ระวังอยู่เเล้วเพราะผมอยู่กับรัฐบาล

ผมขอโทษด้วยครับ ผมจำไม่ได้ น่าจะเป็นชื่อเล่น เเนะนำเป็นชื่อเล่นไม่ได้เเนะนำเลย เพราะเหมือนไปนั่งร่วมโต๊ะเฉยๆ เขาบอกชื่อเล่น บอย รุ่นน้องผมชื่อ น้องกันเขาก็มาทำเรื่องธุรกิจของเขา ไม่เกี่ยวกับผมเเล้วผมก็จะเเถลงข่าวในเรื่องของความเป็นจริง เเละได้เเจ้งความลงบันทึกประจำวัน ให้เป็นเรื่องของกฎหมายเเล้วตั้งเเต่เกิดเรื่องได้ติดต่อคุณศรสุวีร์ไม่ติดเลย ผมไม่โทรหาใครเลย เพราะมันเป็นเรื่องของเด็กๆ ไม่เป็นเรื่องใหญ่ สำหรับผมผมมีให้นามบัตรเขาคุณศรสุวีร์ ผมขอรอเเถลงเลยเรื่องซื้อขายเเมสยังไม่รู้เลย พิสูจน์ได้เลยครับ ว่าผมไม่เกี่ยว"