เพื่อนบ้านพบ 'ผีน้อย' ไม่กักตัวเอง เฝ้าระวังโควิด-19 โทรแจ้ง 1422

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19(COVID-19) ว่า ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 43 ราย อาการหนัก 1 ราย การรักษาตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มาเป็นเวลานานแล้ว อยู่ระหว่างการรักษาวัณโรคและภาวะแทรกซ้อน อาการทรงตัว ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนชะลอไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง

โดยโรคนี้ป้องกันได้ด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ใส่หน้ากากอนามัย ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือสู้ไปด้วยกัน รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมด้วยการป้องกันตัวเองและการติดเชื้อและไม่เพิ่มโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่น หากตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมตั้งสติรับรู้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้และนำไปปรับใช้ และสู้ไปด้วยกันเป็นปัญหาของทุกคน ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ไม่โทษใคร เพราะโรคไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นเรื่องของทุกคน

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องแรงงานไทยในประเทศเกาหลีใต้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานขอมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางแผนร่วมกัน ทั้งนี้เป็นเรื่องระดับรัฐบาลที่ต้องมีการบูรณาการความร่วมมือในการจัดการปัญหานี้ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลป้องกันการระบาด ดำเนินการตามหน้าที่และพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อสั่งการต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับทราบข้อมูลจำนวน รายชื่อและมาจากเมืองใดบ้าง เพราะประเทศเกาหลีใต้ ไม่ได้ระบาดทั้งประเทศ

"ในส่วนคนไทยที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้หรือที่ทั่วไปเรียกว่าผีน้อยที่อาจจะเดินทางกลับมาก่อนหน้านี้แล้วนั้น ก็จะได้รับการคัดกรองตามมาตราที่เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง คือ การคัดกรองอาการไข้ที่สนามบิน หากพบว่ามีไข้ก็จะนำตัวเข้ารับการตรวจวินิจฉัย หากพบว่าป่วยโควิด-19 ก็จะนำเข้ารักษาในห้องแยกโรคความดันลบ ส่วนผู้ที่คัดกรองที่สนามบินแล้วไม่มีอาการป่วย ให้เฝ้าระวังตัวเอง 14 วันเหมือนคนไทยที่กลับจากประเทศเสี่ยง

และขอย้ำว่า เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว ขอให้ผีน้อยโทรมาแสดงตัวกับกรมควบคุมโรค เพื่อที่จะได้มีการติดตามเฝ้าระวัง หรือเพื่อนบ้านที่ทราบว่าใครเป็นผีน้อยแล้วไม่ได้เฝ้าระวังตัวเอง 14 วัน ก็ให้โทรแจ้งกรมควบคุมโรคด้วยที่ สายด่วน 1422 จะมีการเก็บเป็นความลับ แต่ขอว่าอย่าไปรังเกียจ" นายแพทย์โอภาสกล่าว

นายแพทย์โอภาส กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นเชื้อโรคที่ต้องควบคุมตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 กำหนดให้เป็นเชื้อโรคควบคุมในกลุ่มที่ 3 หากผู้ใดต้องการครอบครอง ต้องขออนุญาตเพื่อให้เป็นไปตาม พรบ.เชื้อโรคฯ ซึ่งเป็นการควบคุมกรณีที่จะนำมาใช้เพื่อการวิจัยและพัฒนาในห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเชื้อที่โรงพยาบาลวินิจฉัยผู้ป่วยหรือประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด

"กรณีที่มีการระบุว่าบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลขาดแคลนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้น เข้าใจว่าบางแห่งอาจจะขาด บางแห่งอาจจะมีมาก เพราะปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ซึ่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้มีการพิจารณาการเกลี่ยหน้ากากอนามัยภายในจังหวัดให้กระจายอย่างเพียงพอด้วย" นายแพทย์โอภาสกล่าว