ดาวโจนส์พุ่งกว่า1,000 จุดเหตุนลท.ฟันธงเฟดหั่นดบ.

ดาวโจนส์พุ่งกว่า1,000 จุดเหตุนลท.ฟันธงเฟดหั่นดบ.

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์(2มี.ค.)ปรับตัวขึ้นกว่า 1,000 จุด หรือ 5% ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 1293.96 จุด หรือ 5.09% ปิดที่ราคา 26,703.32 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 136.01 จุด หรือ 4.60% ปิดที่ 3,090.23 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 384.80 จุด หรือ 4.49% ปิดที่ 8,952.17 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ดิ่งลงมากกว่า 10% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการทรุดตัวรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 ส่งผลให้ดาวโจนส์เข้าสู่โซนปรับฐาน โดยร่วงลงมากกว่า 10% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนก.พ. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ราคาหุ้นแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ พุ่งขึ้นนำตลาด โดยทะยานขึ้น 4.2% ในการซื้อขายวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเฟด จะใช้มาตรการป้องกันการทรุดตัวของเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายหลุยส์ เดอ กวินโดส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และอีซีบีพร้อมที่จะออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ กดดันให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับธนาคารกลางแห่งอื่นๆ

“นายเจอโรม พาวเวล และเฟด ยังคงดำเนินการล่าช้าเหมือนเดิม ขณะที่เยอรมนีและประเทศอื่นๆ ต่างกำลังอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางแห่งอื่นๆต่างดำเนินการในเชิงรุกมากกว่าเฟด ขณะที่สหรัฐ ควรมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้เรากำลังเสียเปรียบ เราควรเป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ตาม” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ด้านนายพาวเวล กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฟดจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ และจะใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อหนุนเศรษฐกิจ

การแสดงความเห็นของนายพาวเวลทำให้นักลงทุนในตลาดการเงินมองว่า ประธานเฟดกำลังส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.