ปรับตัวลดลง

ปรับตัวลดลง

เก็งกำไรที่แนวรับ โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ ปรับตัวลดลง แนวรับ 1375 / 1366 จุด แนวต้าน 1408 / 1416 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) Cash is king: การวิตกต่อการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของ COVID-19 ทั้งการกระจายไปในหลายพื้นที่ใหม่ และการพบว่าผู้ติดเชื้อที่หายแล้ว กลับมาเป็นได้ใหม่ในจีนและมณฑลกวางตุ้ง ส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก 2) สหรัฐฯ อาจมีจานวนผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้นแรงเหมือนกรณีโบสถ์ในเกาหลีใต้ หลัง CDCเตือนอาจเกิด community spread หลังพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ไม่ทราบที่มาของการติดเชื้อ 3) รายงานตัวเลขภาคการผลิตและบริการเดือน ก.พ. ของจีน วันเสาร์มีแนวโน้มลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 4) Ex-Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.89 จุด (หลักๆ มาจาก PTTGC DELTA TASCO)

ประเด็นสำคัญวันนี้: personal income/spending เดือน ม.ค., สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ / วันเสาร์ จีน-สานักงานสถิติแห่งชาติ รายงาน PMI Mfg. และ Non-Mfg. เดือน ก.พ. / ไทย-การโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล เริ่ม 9.30 น.

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว: ดัชนีตลาดฯ ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของการซื้อขาย หลังจากร่วงไปต่ำสุดของวันที่ 1355.63 จุด -10.78 จุด ก่อนปรับขึ้นแรงในช่วงภาคบ่ายมาปิดที่ 1395.08 จุด +28.67 จุด +2.10% วอลุ่ม 7.4 หมื่นล้านบาท ทุกกลุ่มอุตฯ ต่าง ฟื้นตัว ยกเว้นประกันภัย นำโดยกลุ่มการแพทย์ +5.76% พาณิชย์ +3.29% ธนาคารฯ +3.11%

- ตลาดหุ้นโลกดิ่ง: การวิตกต่อการแพร่ระบาดทั่วโลกของ COVID-19 การเตือนถึงกำไรบจ.จะแย่กว่าคาด และคาดการณ์ผลกำไรบจ.สหรัฐฯ ปีนี้เติบโตเป็น 0% จากเดิม +7% ส่งผลตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ร่วงเป็นวันที่ 6 DJ -4.42% S&P500 -4.42% Nasdaq -4.61% พร้อมทำสถิติลดลงวันเดียวสูงสุดรอบ 2 ปี และเกือบ 9 ปี ตามลำดับและร่วงไปแล้วกว่า 10% WoW ส่วนตลาดหุ้นยุโรป DAX -3.19% FTSE -3.49% นำลงโดยกลุ่มท่องเที่ยว ธนาคารฯ เหมืองแร่ ค้าปลีก

- น้ำมันร่วงเป็นวันที่ 5 และทองคำย่อตัวเป็นวันที่ 3: WTI-USD1.64 ปิดต่าสุดรอบ 1 ปี ที่ USD47.09/บาร์เรล Brent -USD1.25 ปิดต่ำสุดรอบ 14 เดือน ที่ USD52.18/บาร์เรล วิตกอุปสงค์โลกลดลง ส่วนทองคำย่อตัว USD0.60 เป็น USD1642.50/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

- Coronavirus Update: WHO รายงาน ณ วันที่ 27 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 82,294 ราย (+1185 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 2,801 ราย (+42 รายใหม่) โดยการแพร่ระบาดใน 1)จีน พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 78,630 ราย (+439 รายใหม่) เสียชีวิต 2747 ราย (+29 รายใหม่) 2) นอกจีน พบผู้ติดเชื้อใน 49 ประเทศ (+9 ประเทศใหม่) จำนวน 3664 ราย(+746 รายใหม่) เสียชีวิต 57 ราย (+13 รายใหม่) โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ 1766 ราย (+505 รายใหม่) อิตาลี 400 ราย (+78) ญี่ปุ่น 186 ราย (+22) อิหร่าน 141 ราย (+46) สิงคโปร์ 93 ราย (+2) USA 59 ราย (+6) และเรือสำราญที่จอดที่ญี่ปุ่น 705 ราย (+14)

- USA: ศูนย์ปัองกันและควบคุมเชื้อโรคประกาศพบผู้ติดเชื้อคนที่ 60 ซึ่งอาจมีสาเหตุจาก community spread ครั้งแรกในสหรัฐฯ โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่ในเมือง Solano และรับการดูแลอยู่ที่ Sacramento County โดยไม่มีประวัติเดินทางไปตปท. และไม่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจากผู้ติดเชื้ออื่นใด ทำให้ต้องเฝ้าติดตามบางเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่แรกที่พบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

+ ไทย: ผลการตรวจสอบผู้ใกล้ชิด 97 ราย กับ 3 ผู้ติดเชื้อล่าสุดของไทย พบว่าไม่มีใคร ติดเชื้อ ช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดหุ้นไทยได้ระดับหนึ่ง

+ ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-personal income/spending เดือน ม.ค. คาด +0.3% และ 0.3% (Vs เดือน ธ.ค. 0.2% และ 0.3%) France-4Q19E GDP คาด -0.1% QoQ (Vs 3Q19 +0.3%) และตัวเลขวันเสำร์ จีน-สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงาน PMI Mfg. และ Non-Mfg. เดือน ก.พ. คาด 46 (Vs เดือน ม.ค. 50) 47 (Vs เดือน ม.ค. 54.1)

+/- Earnings Results: จับตาผลกำไร AMATA BAM CK CRC SIRI STEC TRUE TTA WHA ฯลฯ

+ กำรเมือง: สภาผู้แทนฯ ลงมติญัตติไม่ไว้วางใจรายบุคคล ตั้งแต่ 9.30 น.

กลยุทธ์: เก็งกำไรที่แนวรับ โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BAM INTUCH SAWAD

หุ้นโมเมนตัมบวก: KBANK BDMS BH KCE HMPRO TMB PTG STA GLOBAL PLANB DTAC APCO DOHOME

หุ้นโมเมนตัมลบ: EA ASAP PLAT

Derivatives: รอเปิด Long หรือ Short S50H20 เก็งกำไร หลัง 10:30 น. ตามเงื่อนไขที่ให้ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)