หวั่นโควิด-19 ทุบหุ้นมือถือ หลังซัมซุงปิดโรงงานด่วน
ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนโรคระบาดโควิด-19 ยังทวีความรุนแรงเป็นระรอกเกิดความวิตกอีกครั้งหลังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากประเทศเกาหลีใต้และลามไปยังธุรกิจมือถือค่ายยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง
จากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายการพบว่าเมืองแทกู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 4 กลายเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดโรคโควิค-19 เนื่องจากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 763 รายนั้นมี 636 ราย อาศัยอยู่ในเมืองแทกู จนทำให้ต้องมีการประกาศยกระดับการเตือนภัย สู่ระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดทาง ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยักษ์ด้านเทคโนโลยีและโทรศัพท์มือถือของเกาลีใต้ พบผู้ติดเชื้อ 1 รายที่โรงงานผลิตอุปกรณ์มือถือในเมืองกูมิ ส่งผลทำให้ต้องมีการสั่งปิดโรงงานจนถึงสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้เคยมีประเด็นเกิดขึ้นกับประเทศจีนในการสั่งปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของค่ายยักษ์ใหญ่ของโลกหลายแบรนด์ในพื้นที่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เป็นเวลาชั่วคราวหลังการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อซัพพรายเชนยังกลุ่มธุรกิจผลิตอุปกรณ์ยานยนต์ในไทย
กรณีของซัมซุง มีการวิตกว่าประเด็นดังกล่าวจะกระทบผู้จำหน่ายอุปกรณ์มือถือในไทย ตามไปด้วย เนื่องจากตามกำหนดการจะมีการวางขาย Galaxy Z Flip ในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มี.ค.2563 เป็นต้นไป
ประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสองธุรกิจ กลุ่มแรก ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ประกอบไปด้วยบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ซึ่งมีการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนฯ ในประเทศเกาหลีใต้ ผ่านบริษัท เพาเวอร์ มาสเตอร์ แวมิคอนดักเตอร์ จำกัด
ขณะที่บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA จะไม่มีการลงทุนโดยตรงในเกาหลีใต้แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในฐานลูกค้า แต่ด้วยทั้งสองบริษัทมีสัดส่วนรายได้อิงกับอุตสาหกรรมรถยนต์ อยู่ที่ 17 % และ14 % ตามลำดับทำให้ผลกระทบจากเกาหลีใต้ยังจำกัด
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มจำหน่ายอุปกรณ์และมือถือ ประกอบไปด้วยบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เป็นผู้ค้าปลีกและส่งมือถือและอุปกรณ์ มีสาขามากกว่า 200 แห่ง งวด 9 เดือนปี 2562 มีกำไร 379.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันขาดทุน 140 ล้านบาท
บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ค้าปลีกสินค้าไอทีเช่น คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบพกพาโทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ตและอุปกรณ์เสริมต่างๆ มีสาขามากถึง 787 สาขา ใน 70 จังหวัด มีรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ 47-48 % ของรายได้รวม ปี 2562 มีกำไร 1,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.47 % จากปีก่อน ตามยอดขายและกำไรการกิจการร่วมค้าเพิ่มขึ้น
และ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้ค้าส่งรายใหญ่อุปกรณ์สื่อสารและเทคโนโลยี ปี 2562 มีกำไร 523.93 ล้านบาท ลดลง 27 % ตามยอดขายที่ลดลงหลังได้รับผลกระทบสงครามการค้าสหรับและจีน
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคทีบี (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยจากข่าวข้างต้น เนื่องจากโรงงาน Samsung นี้ส่วนมากจะผลิตรุ่น Hi-end และส่วนมากจำหน่ายภายในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันจะเป็นฐานการผลิตของรุ่น Galaxy Fold และ Galaxy Z Flip ในขณะที่รุ่นที่ได้รับแรงตอบรับดีอย่าง Galaxy S20 ที่พึ่งเปิดตัวไปต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมานั้น ผลิตในประเทศเวียดนาม
ดังนั้นจึงคาดว่าการปิดโรงงานนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย Samsung S20 นอกจากนี้คาดว่ายอดขายรุ่น Galaxy Fold และ Galaxy Z Flip ในประเทศไทยจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากอย่างมีนัย เนื่องจาก ณ ปัจจุบันรุ่น Galaxy Z Flip และ Galaxy S20 อยู่ระหว่างช่วง Pre-order และพร้อมขายทั่วประเทศในเดือน มี.ค. นี้ ทำให้บริษัทที่จำหน่ายสินค้าไอทีในประเทศไทยได้มีการสั่งซื้อสินค้า และเก็บสต๊อครอขายในวันเปิดตัว
ทั้งนี้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด โรงงานในประเทศเกาหลีใต้สั่งปิดโรงงานนานกว่าวันที่ 25 ก.พ. และส่งผลต่อาวะที่สินค้าขาดตลาด จึงคาดว่าบริษัทที่จำหน่ายสินค้าไอทีจะได้รับผลกระทบในช่วง ไตรมาส2 ปี 2563 รวมทั้งปัญหา Covid-19 ในประเทศจีน และผลตามปัจจัยฤดูกาลที่ ไตรมาส2เป็นช่วงไลว์ ซีซั่นส่งผลให้รายได้ และผลการดำเนินงานจะปรับตัวลดลง