การปรับประมาณการ GDP อาจทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาฟื้นตัว

การปรับประมาณการ GDP อาจทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาฟื้นตัว

ราคาประมูลคลื่นความถี่ 5G สูงกว่าเป้าหมายกสทช.

สรุปผลการประมูลได้เงินเข้ารัฐรวมกันราว 100,193 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สูงกว่าเป้าหมายของกสทช์ที่ 6.4 หมื่นล้านบาท โดยการแข่งขันรุนแรงในคลื่น 7OOMHz กว่า 20 รอบ ขณะที่คลื่น 2600MHz และ 26GHz มีการประมูลเพียง 1-2 รอบ เท่านั้น โดย 1) คลื่น 700 MHz  กสท.ชนะ 2 ใบ ADVANC ได้ 1 ใบ 2) คลื่น 2600 MHz ADVANC ชนะ 10 ใบ TRUE ได้ 9 ใบ 3) คลื่น 26 GHz ADVANC ได้ 12 ใบ TRUE  8 ใบ TOT 4 ใบ DTAC 2 ใบ โดยเงื่อนไขการชำระเงินของคลื่น 700MHz อยู่ที่ปีละ 10%, คลื่น 2600MHz 10% ในปีแรกและ 15% ในปีที่ 2-7, คลื่น 26GMz ชำระ 100% ในปีแรก

ระวังการปรับประมาณการของ ADVANC และ TRUE แต่กลุ่มที่บวกคือ System integrator (SI) แม้ผลการประมูลจะเป็นบวกระยะยาวต่อ ADVANC และ TRUE แต่ต้นทุนใบอนุญาตที่เพิ่มขึ้นมา 4.2 และ 2.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็นค่าตัดจ่าย (Amortization) เพิ่มปีละ 2.8 และ 1.4 พันล้านบาท คิดเป็น 8.4% และ 70% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 ทำให้อาจต้องระวังการปรับประมาณการลงที่จะตามมา ขณะที่การชนะประมูล 5G ของ CAT และ TOT คาดว่าจะทำให้เกิดการจ้างติดตั้งโครงข่าย ส่งผลบวกต่อ SAMART, AIT, ALT และผู้ประกอบการอื่นๆ

การรายงาน GDP ไตรมาส 4/62 อาจทำให้กลุ่มไฟฟ้าฟื้นตัว คาดคาดการรายงาน GDP ไตรมาส 4/62 ที่ 2.4% ขณะที่คาดสภาพัฒน์ฯ จะเปิดเผยประมาณการ GDP ปี 2563 ใหม่ที่รวมผลของไวรัสโคโรนา, ภัยแล้ง และงบประมาณปี 63 ที่ล่าช้า ทำให้ประมาณการใหม่มีโอกาสอยู่ใกล้ 2% ซึ่งอาจเป็นสัญญาณลบให้เกิดการปรับประมาณการผลการดำเนินงานของบจ.ในหลายอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องตามมา ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ปรับฐานมาก่อนหน้ามีโอกาสฟื้นตัว แม้เราจะมองหุ้นหลายตัวเกินราคาเหมาะสมแต่ในเชิงกลยุทธ์มองเป็นโอกาวสเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนที่น่าสนใจใน GPSC, BGRIM, GULF, EGCO

เลือกเก็งกำไรรายตัว กลุ่มบริหารจัดการหนี้แม้มีโมเมนตัมบวกจาก NPL ที่เพิ่มขึ้น แต่การเพิ่มขึ้นของราคาทำให้อัพไซด์แต่ละตัวลดลง ประกอบกับการปรับลด GDP มีผลให้คุณภาพหนี้และการตามเก็บหนี้ยากขึ้น สำหรับสาธารณูปโภคในนิคม อาจได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้งบครึ่งปีแรกอ่อนแอ แต่ไม่เปลี่ยนแปลงปัจจัยบวกระยะยาว ทยอยสะสม EASTW, WHAUP เรามองความกังวลผลประกอบการจะทำให้หุ้นในกลุ่มรายได้มั่นคงที่ราคาไม่ รวมถึงพลังงานทดแทน มีโอกาสเป็นเป้าหมายการลงทุน อาทิ BPP, SPP, GUNKUL

ภาพรวมกลยุทธ์ การปรับลด GDP อาจทำให้ตลาดตอบรับเชิงลบ จากโอกาสปรับลดประมาณการกำไรบจ.และทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมา Outperform ในช่วงสั้นได้ // หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC, PTG* /เก็งกำไร BPP* (เป้า 16.50 ตัดขาดทุน 15.40), MFEC* (เป้า 4.00 ตัดขาดทุน 3.30)

แนวรับ 1516 จุด / แนวต้าน : 1531-1548 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%.

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง – NHC รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 2,009 ราย สู่ระดับ 68,500 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 142 ราย สู่ระดับ 1,665

EU GDP ไตรมาส 4/62 โตต่ำกว่าคาด – ยูโรสแตท รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/62 ของกลุ่มยูโรโซน อยู่ที่ 0.1% ลดลงจากไตรมาส 3/62 ที่ขยายตัว 0.3%

สมคิดเตรียมดันมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มช่วงปลาย มี.ค. –เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะมีทั้งมาตรการภาษีและมาตรการเสริมสภาพคล่อง คาดเริ่มใช้ในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้

CHAYOต้องวางเงินสดก่อนการซื้อขาย (Cash balance) เริ่มต้น 17 ก.พ. – 27 มี.ค.

CRCเข้าซื้อขายวันแรก (Firs day trading) วันที่ 20 ก.พ.63 ราคา IPO ที่ 42 บาท ซึ่งคาดว่าด้วยขนาดของ market cap ที่ราว 2.7 แสนล้านบาท ทำให้มีโอกาสเข้า SET50

ค่าระวางเรือ – อยู่ที่ 425 เปลี่ยนแปลง +4.00 หรือ +0.95%

ประเด็นติดตาม: 17.พ. – TH GDP 4Q19, 20.พ. – FOMC meeting minute, 21.พ. – EU Manufacturing PMI / US Manufacturing PMI เดือน ก.พ.

 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)