สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสูงกว่าคาดฉุดราคาเวสต์เท็กซัสลดช่วงบวก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2.46% ปิดที่ราคา 51.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 3% ในช่วงแรก ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ราคา 55.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นไปแตะที่ราคา 56.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยพุ่งขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล

ด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 100,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 900,000 บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19)

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (เอ็นเอชซี) แถลงในวันนี้ว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 97 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากกว่า 44,000 ราย แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงรอดูท่าทีของรัสเซียต่อข้อเสนอที่ให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร เพิ่มการปรับลดกำลังการผลิต

ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (เจทีซี) ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร มีมติเสนอให้โอเปกปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 600,000 บาร์เรล/วัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันซึ่งได้ทรุดตัวลง อันเนื่องมาจากความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

อย่างไรก็ดี นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียขอเวลาตัดสินใจในประเด็นดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ภาวะตลาดน้ำมัน และจะประกาศจุดยืนของรัสเซียในสัปดาห์นี้