แกว่งตัวในกรอบ

แกว่งตัวในกรอบ

ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นหลังมีกระแสข่าวว่ากลุ่มโอเปกอาจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปถึงเดือนมิ.ย.(เดิมสิ้นสุดเดือนมี.ค.) จะเป็นบวกต่อดัชนีด้วยเช่นกัน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index วานนี้ปรับตัวลง -10.89 จุด (-0.71%) ปิดที่ 1,513 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท จากความกังวลการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโลกรวมถึงไทย นอกจากนี้ยังมีแรงขายรายกลุ่มที่ Valuation ตึงตัว เช่น โรงไฟฟ้า FIN ETRON  กดให้ดัชนีทรุดตัวลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 651 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 184 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 17,068 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,505 - 1,525 จุด แม้ว่าปัจจัยลบสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงอยู่ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 132 ราย และผู้ติดเชื้อ 5,974 ราย รวมถึงกระแส Fund flow ต่างชาติที่เป็น Net sell ต่อเนื่องจะเป็นแรงกดดันดัชนี อย่างไรก็ตามภาวะตลาดได้ปรับตัวลงตอบรับข่าวไประดับนึงแล้ว ประกอบกับได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นรวมถึงสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น US Bond yield 10 ปีดีดตัวขึ้น และราคาทองคำอ่อนตัวลง ซึ่งช่วยหนุน sentiment การลงทุนในระยะสั้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นหลังมีกระแสข่าวว่ากลุ่มโอเปกอาจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปถึงเดือนมิ.ย. (เดิมสิ้นสุดเดือนมี.ค.) จะเป็นบวกต่อดัชนีด้วยเช่นกัน

** ติดตามการประชุม FOMC ในวันที่ 28 – 29 ม.ค. คาด Fed คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75%

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน TOP, PTTGC, SPRC ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นและราคาหุ้นปรับตัวลงมาในเขต Oversold
  • กลุ่มส่งออก Elec (KCE, HANA, DELTA), Food (CPF, TFG, TU) อานิสงส์ทิศทางเงินบาทอ่อนค่า
  • กลุ่ม Defensive และงบ 4Q19F คาดว่าจะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้ GPSC, GULF, JMT, CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC, OSP, และ CBG

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TOP (ปิด 51.25 ซื้อ/เป้า 79) ราคาลดลงมากเกินไป (34% ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน) ขณะที่ปัจจุบันค่าการกลั่นพลิกเป็นบวกแล้วจากที่ 2 เดือนก่อนหน้าเคลื่อนไหวในแดนลบ มองด้าน Valuation ค่อนข้างถูก ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่า Book value ของ TOP ที่ 58 บาท 
  • INTUCH (ปิด 58.5 ซื้อ/เป้า 81) INTUCH เหมาะสำหรับหลบภัยในภาวะตลาดผันผวน เนื่องจากจ่ายปันผลสม่ำเสมอและให้ Dividend yield สูง ประมาณ 4.5% ต่อปี สูงกว่าเมื่อเทียบกับ ADVANC ที่ 3.5% ขณะที่ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าเงินลงทุน (NAV) ใน ADVANC และ THCOM โดยมี Discount จากมูลค่า NAV ถึง 28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 20-25%

บทวิเคราะห์วันนี้

DTAC (ปิด 44.50 ซื้อ/เป้า 67)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) WHO มั่นใจจีนรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าได้ แต่อย่าพึ่งวางใจ หลังพบการติดเชื้อคนสู่คนในญี่ปุ่นและเยอรมนี: วานนี้ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เดินทางไปตรวจสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในจีน จากนั้นมีการแถลงข่าวโดยระบุว่า WHO มั่นใจจีนจะสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐและยุโรปกลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเรายังไม่วางใจกับสถานการณ์ดังกล่าวเนื่องจากวานนี้มีรายงานว่าญี่ปุ่นและเยอรมนีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวไม่มีประวัติการเดินทางไปจีนบ่งชี้ได้ว่าไวรัสดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ปัจจัยนี้จะทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ยากขึ้น นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขของไทยยังรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 6 ราย รวมเป็น 14 ราย มากเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศจีน (ล่าสุดจีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ 5,578 ราย เสียชีวิต 131 รายเพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่ 4,474 รายและ 106 รายตามลำดับ)
  • (+) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัววันแรก คาดหวังโอเปกขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงเดือนมิ.ย. (เดิมยุติโครงการ มี.ค.): ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ (+0.6%) ปิดที่ 53.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการปิดบวกวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบ (Opec + Non Opec) จะขยายเวลาลดกำลังการผลิตจำนวน 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปอีก 3 เดือนจนถึงเดือน มิ.ย. 2020 จากเดิมจะยุติโครงการ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2020 เพื่อชดเชยดีมานด์ที่คาดว่าจะชะลอตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า
  • (+) ภาครัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สนับสนุนการลงทุนในเครื่องจักร และเตรียมออกชิมช้อปใช้เฟส 4: ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการลงทุนในประเทศ 3 มาตร คือ 1) ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร 146 ประเภท, 2) หักค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยนเครื่องจักรได้เพิ่มเป็น 2.5 เท่า เดิม 2 เท่า และ 3) ให้สินเชื่อเพื่อการลงทุน ผ่าน Exim Bank โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2020 เป็น Sentiment บวกกับกลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA), นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกเส้นทาง บางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กำหนดรูปแบบการลงทุนเป็น PPP Net Cost มูลค่าลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท คาดเปิดประมูลประมาณเดือน ต.ค.2020 (เป็นบวกกับ CK, STEC, ITD) และสุดท้ายเตรียมออกมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 4 คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงเดือน ก.พ.