ถูกกดดันจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

ถูกกดดันจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดปรับตัวลง และแกว่งตัวในแดนบวกสลับลบ คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ ที่ยังคงถูกกดดันจากความกังวลของโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่กระจายต่อเนื่อง

กดดันกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบโลก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,569.55 จุด (-4.15 จุด) Volume 4.8 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,074.91 ลบ. TFEX Net  -12,335 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 170.36 จุด -0.58% กังวลการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ล่าสุดสหรัฐพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายที่ 3 เป็นนักเดินทางที่เพิ่งกลับจากอู่ฮั่น

-ราคาน้ำมันดิบ WTI  -1.40 ดอลลาร์ -2.5% ปิด 54.19 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง

-จีนประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุด รัฐบาลจีนประกาศขยายวันหยุดตรุษจีน พร้อมออกมาตรการรับมือไวรัสโคโรนาระบาด ประกาศห้ามทัวร์จีนออกนอกประเทศ มีผลตั้งแต่วันนี้ (27 ม.ค.)

-ภาพรวมศก.ช่วงไตรมาสแรกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าจากการเบิกจ่ายงบประมาณฯปี 63 ล่าช้า รายได้ท่องเที่ยวลดลงหลังรัฐบาลจีนห้ามคนจีนเดินทางเพื่อสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

-การเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนจากการวินิจฉัยพ.ร.บ.งบประมาณว่าเป็นโมฆะหรือไม่ ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

+ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับต้นปีเป็นผลดีค่อการส่งออก

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 5,871.93 ลบ. ค่าเงินบาท 30.56 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนม.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง -2.5% เป็นตัวกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU KCE HANA DELTA)
  • หลีกเลี่ยงกลุ่มสายการบิน (THAI AAV NOK) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW MINT)

หุ้นรายงานพิเศษ

TMB analyst meeting  (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 1.75 บาท)

ถือรอรับผลบวกจาก synergy

ผู้บริหารเปิดเผยถึงปฏิบัติการควบรวมกับ TCAP ใช้เวลา 8 เดือนสิ้นสุด ก.ค. 64 เพื่อให้เกิด 3 synergy หลักด้านสินทรัพย์ รายได้ และค่าใช้จ่าย ด้วยการไม่เร่งระดมเงินฝาก ปรับเปลี่ยนให้มีต้นทุนเงินฝากต่ำลง ปรับส่วนผสมสินเชื่อเพิ่ม NIM   พัฒนาสาขาร่วมลดคชจ. ตั้งเป้า ROE ในระยะยาวที่  12% จากระดับ 6.5% ณ ปลายปี 62 หลังควบรวมแล้ว (ปลายปี 61 ROE 12.4%)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของธนาคารใหม่หลังผ่านกระบวนการควบรวมเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า และเกิด synergy จากทั้งสองธนาคาร TMB มีจุดเด่นด้านผลิตภัณฑ์ระดมเงินฝากที่มีต้นทุนทางเงินต่ำ ส่วน TBANK มีจุดเด่นด้านพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่มี yield สูง แนะนำถือ

ส่องหุ้น

       COM7     ​​แนวรับ 27.50 บาท​​​​           แนวต้าน 28.25-28.75 บาท

       SISB​​       แนวรับ 9.85-9.80 บาท​​​    แนวต้าน 10.00-10.20 บาท

       SPVI       ​​แนวรับ 3.00-2.98 บาท​​​    แนวต้าน 3.16-3.24 , 3.36 บาท

หุ้นมีข่าว   

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 3.75 บาท)   คว้างานก่อสร้างอาคารให้เช่า และติดตั้งระบบผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป กำลังการผลิตติดตั้ง 437.4 กิโลวัตต์ จากเทสโก้ โลตัส มูลค่า 584.31 ล้านบาท พร้อมเตรียมยื่นประมูลงานใหม่ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท คาดได้งาน 30% มั่นใจปี 63 รายได้นิวไฮ 9 พันล้านบาท โตไม่ต่ำกว่า 25% จากปี 62 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) THCOM (ราคาเหมาะสม 4.77 บาท) กสทช.ชี้ ดีอีเอส-THCOM” ดำเนินการไม่เหมาะสม หลังขอให้ไทยคม 5 ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างประเทศในภาวะฉุกเฉิน มองไม่เป็นไปตามมติครม.ที่ให้ติดตั้งพาวเวอร์ แบงก์ เพื่อต่ออายุ ยัน กสทช.อนุญาต เกรงกระทบผู้บริโภค (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PRINC (Bloomberg Consensus - บาท)  จับมือ บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก” เปิด ศูนย์ให้บริการทางการแพทย์ด้านกระดูกสันหลังและข้อ Spine & Joint” รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ชูมาตรฐานการรักษาที่เป็นเลิศ โดยทีมแพทย์รพ.บำรุงราษฎร์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนไข้ในราคาที่เข้าถึงได้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SGP (Bloomberg Consensus - บาท) ล้มแผนสร้างคลัง LPG หลัง EIA เสร็จไม่ทันปีนี้ หันซื้อจาก PTT แทน ผู้บริหารยืนยันเดินหน้าลงทุนคลัง LNG ที่มาบตาพุดตามแผน เริ่มก่อสร้างปี 65-66 (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) LPH (Bloomberg Consensus 5.53 บาท)  เคาะเป้าปี 2563 รายได้เติบโต 25-30% จากปี 2562 รับฐานค่ารักษาพยาบาลขยายตัว แถมยิ้มรับสปส.เพิ่มอัตรารักษาผู้ประกันตนหนุน แถมเดินหน้าขอโควตาประกันสังคมเพิ่มอีก 1 หมื่นรายคาดชัดเจนช่วงกลางปี 2563 จากเดิมที่มีราว 1.6 แสนราย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BBL (ราคาเหมาะสม 197.59 บาท) ยันยังไม่มีแผนเพิ่มทุนใช้ซื้อ "เพอร์มาตา" ในประเทศอินโดนีเซีย คาดซื้อล็อตแรก 89.12% ภายในไตรมาส 3/2563 พร้อมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อและรับโอนหุ้นทั้งหมด วันที่ 5 มีนาคม 2563 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) QTC (Bloomberg Consensus - บาท)  แย้มดีลซื้อกิจการ คาดชัดเจนไม่เกินครึ่งปีแรกปี 2563 หากเป็นไปตามแผนเชื่อเสริมทัพ หนุนรายได้ กางกลยุทธ์ปี 2563 ส่งซิกงาน EEC เพียบ คาดรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน พร้อมเตรียมชิงงานใหม่ 40-50 ล้านบาท ลั่นผนึกพันธมิตรรับงานต่อ (ที่มา ทันหุ้น)

 (+) UREKA (Bloomberg Consensus - บาท) ปรับโครงสร้างธุรกิจ เดินหน้าผนึกพันธมิตร ลุยกิจการร่วมค้ายูเรกา ยูยู จ่อประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานเข้าพอร์ต 2 งานในปีนี้ ด้านผู้บริหาร "ลิศพัทธ์ ใคร่ครวญ" เล็งลดสัดส่วนยูเรกา ดีไซน์กระจายความเสี่ยง จากเดิมมีสัดส่วนที่ 80% พร้อมปั๊มผลงานเป็นบวก (ที่มา ทันหุ้น)