ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานซบเซา

ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานซบเซา

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (10ม.ค.)ปรับตัวร่วงลง หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ซบเซา ซึ่งอาจกระทบต่อความต้องการในการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ราคา 59.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 45 เซนต์ ปิดที่ราคา 64.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2562 พบว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านตำแหน่ง ลดลงอย่างมากจากระดับ 2.7 ล้านตำแหน่งในปี 2561

นอกจากนี้ การจ้างงานนอกภาคเกษตรในปีที่แล้วคิดเป็นตัวเลขเฉลี่ย 176,000 ตำแหน่งต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะนำคณะผู้แทนของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐในระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค. เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะมีขึ้นในวันที่ 15 ม.ค.