ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภาคืบหน้า แอร์บัสยื่นข้อเสนอ มี.ค.63

ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภาคืบหน้า  แอร์บัสยื่นข้อเสนอ มี.ค.63

“บินไทย”ส่งเอกสารคัดเลือกเอกชนโครงการศููนย์ซ่อมอู่ตะเภาให้แอร์บัสแล้ว หลังคณะกรรมการคัดเลือเห็นชอบ เตรียมเปิดยื่นข้อเสนอ 6 มี.ค.นี้ มั่นใจเจรจาจบดีล

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (เอ็มอาร์โอ) โดยระบุว่า ขณะนี้การบินไทยได้ออกเอกสารการคัดเลือกเอกชนฉบับปรับปรุงและจัดส่งให้แก่เอกชน หรือ บริษัท Airbus S.A.S (แอร์บัส) เพื่อให้เอกชนจัดเตรียมและส่งข้อเสนอการร่วมลงทุน ในเดือน มี.ค. 2563

“การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบเอกสารการคัดเลือกเอกชนฉบับปรับปรุง และมอบหมายให้การบินไทย ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการฯ จัดส่งเอกสารการคัดเลือกเอกชนดังกล่าวให้แอร์บัส โดยการบินไทยได้จัดส่งเอกสารการคัดเลือกเอกชนดังกล่าวให้แก่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนเรียบร้อยแล้ว”

สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานหลังจากนี้ กรณีที่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน มีข้อสงสัย หรือ มีคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือกเอกชน การบินไทยได้กำหนดกรอบเวลาให้เอกชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ 22 ม.ค.2563 ก่อนจะเปิดให้เอกชน ยื่นข้อเสนอภายในวันที่ 6 มี.ค. 2563

นายสุเมธ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากมีการยื่นข้อเสนอจากเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรอง และหาข้อสรุปเพื่อนำผลการเจรจา ผลการคัดเลือก และร่างสัญญาร่วมทุน เสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการบินไทยคาดว่า การเจรจาต่อรองจะได้ข้อยุติในเดือน พ.ค. 2563

หลังจากนั้น การบินไทยจะต้องส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยประมาณการว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุดในเดือน มิ.ย. 2563 จากนั้น การบินไทยจะนำเรื่องเสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอความเห็นชอบจาก กพอ. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจาก กพอ.ในเดือน ก.ค. 2563 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อรับทราบในเดือน ส.ค. 2563 ต่อไป

อย่างไรก็ดี การบินไทยคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนระหว่างการบินไทยฯ และเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนภายในเดือน ส.ค. 2563 และคาดว่าศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาจะเปิดดำเนินกิจการได้ประมาณเดือน เม.ย. 2566

สำหรับโครงการพัฒนาเอ็มอาร์โออู่ตะเภาตามแผนลงทุนของการบินไทย จะดำเนินการบนพื้นที่ประมาณ 210 ไร่ โดยแบ่งระยะการลงทุนออกเป็น ระยะแรกช่วงปี 2565 - 2583 จะลงทุนประมาณ 6.3 พันล้านบาท โดยการบินไทยลงทุนเอง 2 พันล้านบาท ที่เหลือจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุง และจัดซื้ออุปกรณ์

โดยโครงการนี้จะสามารถรองรับการซ่อมบำรุงอากาศยานได้ราว 80-100 ลำ ตามแผนคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2565 มีเป้าหมายสร้างรายได้ในปีแรกอยู่ที่ 400 – 500 ล้านบาท จากการซ่อมอากาศยาน 10 ลำ และประเมินว่าจะมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยอีกปีละ 2% และในช่วง 50 ปีจะมีรายได้รวม 2 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการเอ็มอาร์โอ บริษัทการบินไทยในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการผู้รับผิดชอบโครงการ ได้ออกประกาศเชิญชวนและคัดเลือกเอกชนโดยไม่ใช้วิธีการประมูล แต่ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.2562 ซึ่งผลการคัดเลือก บริษัท Airbus S.A.S (แอร์บัส) ผ่านคุณสมบัติและมีประสบการณ์เหมาะสมตามที่การบินไทยกำหนดไว้ ทำให้ปัจจุบันแอร์บัสกลายเป็นเอกชนเพียงรายเดียวที่อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุน

ขณะที่กองทัพเรือในฐานะเจ้าของพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการศึกษา สำรวจและออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาแล้ว ภายหลังได้รับงบประมาณจาก ครม. เพื่อจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา และการจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 วงเงินรวม 347 ล้านบาท อีกทั้ง ครม.ยังมีมติอนุมัติกรอบงบประมาณ 6.5 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาแล้วด้วย