ฝ่ายค้าน ห่วง ปธ.สภา ไม่กลาง จี้เพิ่มเงื่อนไขนับคะแนนใหม่-แก้นิยาม

ฝ่ายค้าน ห่วง ปธ.สภา ไม่กลาง จี้เพิ่มเงื่อนไขนับคะแนนใหม่-แก้นิยาม

"รัฐสภา" รับหลักการร่างข้อบังคับรัฐสภา ฝ่ายค้าน ห่วง ปธ. ไม่กลาง จี้เพิ่มเงื่อนไขนับคะแนนใหม่-แก้นิยาม

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 62 ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พิจารณา ที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธาน กมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระแรก ขั้นรับหลักการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาสมาชิกรัฐสภาก่อนที่จะลงมติรับหลักการหรือไม่ มีผู้เสนอให้แก้ไขข้อบังคับ โดยกำหนดบทบัญญัติที่ป้องกันการใช้ดุลยพินิจที่ไม่เป็นกลางของประธานในที่ประชุม โดย นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายให้แก้ไขร่างข้อบังคับการประชุมว่าด้วยการนับคะแนนใหม่ ในข้อที่ 58 หากมีสมาชิกรัฐสภาร้องขอ และมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 40 คน และคะแนนเสียงที่ไม่ต่างกันเกินกว่า 30 คะแนน ว่า เพื่อเป็นการใช้ดุลยพินิจของประธานในที่ประชุมที่ไม่มีความเป็นกลางเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ขอให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม

1.การนับคะแนนใหม่ต้องใช้เฉพาะกรณีที่พบการออกเสียงไม่เที่ยงธรรม หรือมีปัญหา และ 2.การนับคะแนนใหม่ ต้องสงวนสิทธิเฉพาะผู้ที่ออกเสียงลงคะแนนไปในรอบแรก จะให้ ส.ส.ที่ไม่ได้ลงมติลงคะแนนเพิ่มเติมไม่ได้ นอกจากนั้น ยังเสนอช่องทางให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมรัฐสภา รวมถึง กมธ. ผ่านทางสื่ออิเล็คทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนติดตามข่าวสาร โดยไม่รอการแถลงจากโฆษกเท่านั้น

ทั้งนี้ นายชวน ขอชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงทันทีว่า หาก ส.ส.เห็นว่าควรแก้ไขให้เสนอคำแปรญัตติขอแก้ไข แต่หากไม่แก้ไขประะธานที่ประชุมไม่มีทางปฏิบัติอย่างอื่นต้องทำตามข้อบังคับและปฏิบัติเหมือนเดิมคือนับคะแนนใหม่ ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้เสนอ ดังนั้น การยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นมาอภิปราย ประธานไม่สามารถหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่นได้ ขณะที่การอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ได้ทักท้วงและขอให้แก้ไขรายละเอียดในร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาในหลายประเด็น อาทิ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่กำหนดว่าให้รับฟังความเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก ร่าง พ.ร.ป. ตามหลักเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนด ให้นำผลการศึกษาและการรับฟังความเห็นเปิดเผยต่อสาธารณะ

ขณะที่หลักเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนดต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน ส่วนปัญหาของการนับคะแนนใหม่ ควรแก้ไขคำนิยามให้หมายถึงผู้ที่มีสิทธิ์ ส.ส. หรือผู้ที่อยู่ในองค์ประชุมได้ลงคะแนนในวันลงคะแนน รวมถึงการกำหนดบทบัญญัติให้การทำหน้าที่ของประธานที่ประชุมเป็นไปด้วยความเป็นกลางหลังจากที่สมาชิกรัฐสภา อภิปรายแล้วเสร็จ ได้ลงมติ โดยเสียงส่วนมากรับหลักการของร่างบังคับการประชุมรัฐสภา ด้วยเสียง 598 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากนั้นได้ตั้งกมธ. 28 คน เพื่อพิจารณา โดยมีระยะเวลาพิจารณา 60 วัน