แนวโน้มการลงทุนปี 2563 ค่อนข้างเป็นบวกในช่วงต้นปี

แนวโน้มการลงทุนปี 2563 ค่อนข้างเป็นบวกในช่วงต้นปี

เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นดีขึ้น

หลักจากแย่สุดในระยะสั้นไปในช่วงปี 2562 ผลของการจัดการอุปสงค์-อุปทานการค้าใหม่จากความขัดแย้งการค้าที่เกิดขึ้น ประกอบกับความขัดแย้งการค้าในระยะสั้นคลี่คลายลง จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและคำสั่งซื้อ (re-stocking) ในปี 2563 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงกำไรของบจ.

การปรับลดน้ำหนักเงินลงทุนในสนิทรัพย์ปลอดภัย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ความเสี่ยงทางลบในระยะสั้นปรับลดลง อาทิ การเกิดเศรษฐกิจถดถอย, สงครามการค้า, การแยกตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้นักลงทุนต้องกลับมาปรับน้ำหนักการลงทุน (re-balancing) ซึ่งเราเห็นทิศทางการลดน้ำหนักสินทรัพย์ปลอดภัย และเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ โภคภัณฑ์ รวมทั้งหุ้นที่อิงวัฏจักรการเติบโตมากขึ้น

แนวโน้มดัชนีและกลุ่มที่ได้ประโยชน์ เราคาดตลาดหุ้นในช่วง 3-5 เดือนแรก จะได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากการฟื้นตัวของดัชนีหุ้นและความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยมีเป้าหมายปี 2563 ที่ 1700-1750 จุด กลุ่มที่ได้ประโยชน์ได้แก่หุ้นที่อิงภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อาทิ พลังงาน ขณะที่หุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศอาจต้องเลือกกลุ่มที่มีปัจจัยบวกในระยะสั้น ได้แก่ ท่องเที่ยว และธนาคาร (เทรดดิ้ง) หุ้นที่เราชอบได้แก่ TOP, SPRC, PTT, PTTEP, MINT, ERW, WHAUP ขณะที่หุ้นเล็กที่เราชอบ ได้แก่ THRE, ACE, VNT

ประเด็นเก็งกำไรรยะสั้นกลุ่มเกษตรและอาหาร 1) ราคาน้ำตาลทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี เป็นปัจจยบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นน้ำตาล (ควรกำหนดจุดตัดขาดทุน) 2) ค่าเงินเรียล บราซิลเริ่มแข็ง ขณะที่เงินบาทเริ่มอ่อนค่า เป็นปัจจยบวกต่อกลุ่มส่งออกอาหารและเนื้อสัตว์ อาทิ CPF, TFG, GFPT

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ทั้งนี้การเก็งกำไรระยะสั้นที่ตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไประยะหนึ่งจะอยู่ที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก หรือหุ้นใหญ่ที่ลงมามาก // หุ้นแนะนำวันนี้ VNT*, BBL, /เก็งกำไร KSL* (เป้า 2.60, ตัดขาดทุน 2.12), เก็งกำไร VL* (เป้า 1.60, ตัดขาดทุน 1.34)

แนวรับ 1560-1580 จุด / แนวต้าน : 1561 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

ประเด็นการลงทุน

ความคืบหน้าการค้ายังเป็นบวก – ปธน.ทรัมป์ เปิดเผย ความคืบหน้าการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้ากับปธน.สีจิ้นผิงที่เป็นบวก โดยจีนได้เริ่มซื้อสินค้าเกษตรและอื่นๆ จำนวนมากจากสหรัฐฯ โดยกำลังเตรียมลงนามพิธีการอย่างเป็นทางการ ขณะที่จีนระบุข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะส่งผลบวกต่อทั้งสหรัฐฯ และจีน

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง หนุนค่าเงินเหรียญฯ – สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 2.1% เท่ากับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ได้ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาครัฐฯ ขณะที่ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงเกินคาด

เตรียมปรับบัตรสวัสดิการรัฐฯ เป็นโครงการถาวร – นายอุตตม รมว.คลัง สั่งการให้ สศค.ปรับรูปแบบโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ จากโครงการชั่วคราวเป็นโครงการถาวร โดยให้กระทรวงการคลังจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อกำกับดูแลโดยตรง

การเมือง ออกหมายเรียกธนาธรับทราบข้อหาจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมรับฟังคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่คดีอิลลูมินาติ

เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น ผู้สมัครจากพลังประชารัฐฯ ชนะผู้สมัครจากเพื่อไทยประมาณ 2 พันคะแนน

หุ้นถูกขายชอร์ตมาก – PTTGC, TRUE, GLOBAL, SCC, PTT

ค่าระวางเรือ - ดัชนี BDI ปิดวันทำการที่ 1,123 จุด ลดลง 28.00 จุด, -2.43%

ประเด็นติดตาม: 23 ธ.ค. – ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ เดือน พ.ย., 24 ธ.ค. – BOJ meeting, 24-25 ธ.ค. ตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย เยอรมัน ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)