'ประยุทธ์' ลั่นเป็นผู้นำแพไม่ล่ม มั่นใจแจงซักฟอก

'ประยุทธ์' ลั่นเป็นผู้นำแพไม่ล่ม มั่นใจแจงซักฟอก

นายกฯ ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมเหนียวแน่น ลั่น “แพไม่ล่มถ้าผมยืนอยู่ตรงนี้” มั่นใจข้อมูลแน่นแจงซักฟอก ด้าน “4 ส.ส.งูเห่าอนค” ย้ายขั้วซบรัฐบาล “ศรีนวล”เข้าภูมิใจไทย “จารึก-ฐนภัทร”ชทพ. ส่วน“กวินนาถ”จ่อซบพปชร. ขณะที่วิปรัฐบาลเคาะ “พีระพันธ์ุ” ประธานกมธ.แก้รัฐ

ความเคลื่อนไหวการเตรียมความพร้อมรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงประเด็นเสถียรภาพรัฐบาลภายหลังจากที่4ส.ส.พรรคอนาคตใหม่(อนค.) ซึ่งถูกมติขับออกจากพรรคเตรียมย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล

วานนี้(18 ธ.ค.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวยืนยันถึงความเหนียวแน่นในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่มีปัญหาอะไร การเมืองก็เป็นแบบนี้ เราเองก็ปรับเปลี่ยนไปได้มากพอสมควร และเรายืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลย ในพรรคร่วมรัฐบาลมีอะไรก็พูดจากันตลอด ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน 

ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวม 4 คน ตนก็เตรียมการในการชี้แจง เชื่อว่าทุกอย่างสามารถชี้แจงได้ เพราะบริสุทธิ์ใจทุกอย่างในการทำงาน แต่วันนี้อยากเห็นการเมืองที่เป็นการเมืองสร้างสรรค์

นายกฯยังกล่าวย้ำถึง การทำหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาลว่า วันนี้รัฐบาลก็มากันหลากหลายเป็นรัฐบาลแรกที่มีพรรคการเมืองร่วมถึง 18 พรรค ไม่เคยมีเท่านี้มาก่อน  เรื่องเศรษฐกิจสำคัญที่สุด สิ่งที่จะเกื้อหนุนคือ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพทางการเมือง เพราะฉะนั้นเรื่องที่ใครพูดกันไปกันมาแล้วจะมาตีกันอยู่อย่างนี้ ตนมองว่าไม่เกิดประโยชน์ 

“ต้องบอกว่าวันนี้เราเข้ามาทำอะไร รัฐบาลที่แล้วแก้ปัญหาอะไรไปแล้วบ้าง แล้วมาแก้ต่อในรัฐบาลนี้ ซึ่งกติกาก็รับกันทั้งหมดอยู่แล้ว อย่ามองว่าแพจะแตกแพจะล่มหรือเปล่า ไม่มีล่มหรอก ถ้าผมยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีล่ม” นายกฯกล่าว

ส่วนกรณี 4 ส.ส.พรรคอนค.ที่ถูกขับออกจากพรรค วันนี้เขาไม่ได้เป็นงูเห่า เพียงแต่เขาถูกให้ออกจากพรรค วันนี้ไม่มีคำว่างูเห่า การเมืองก็เป็นแบบนี้ ขณะที่งานเลี้ยงส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ที่จัดขึ้นที่สโมสรราชพฤกษ์ อยู่ระหว่างการตัดสินว่าจะไปหรือไม่

เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร. กล่าวว่า กรณี4 ส.ส.อนค.ที่ถูกขับออกจากพรรค ตนไม่ทราบว่ามีการทาบทามหรือไม่ต้องไปถามทั้ง4 ส.ส.เอง

“อนุทิน” ยันภท.เป็นปึกแผ่น

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เท่าที่ดูหน่วยงานในกำกับดูแลของตน ก็มั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ และต้องกังวลหากอภิปรายไม่ได้มากกว่า และถ้าจะต้องชี้แจงหรืออธิบายอะไร ในญัตติต่างๆ ก็ต้องพร้อม

ส่วน4 ส.ส.อนาคตใหม่ ที่ถูกลงมติขับพ้นจากพรรค ซึ่งมีบางคนเตรียมตัวมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย(ภท.)นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของพรรคมีส.ส.51 เสียงมีความเป็นปึกแผ่น สามารถทำงานสนับสนุนรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีได้ เท่านี้ก็พอใจแล้ว  สำหรับ ส.ส.ทั้ง 4 ท่าน ท่านจะไปอยู่พรรคไหน มาอยู่กับรัฐบาลแล้วจะเป็นผลดีหรือไม่ ส่วนตัวไม่ขอก้าวก่าย

ศรีนวลย้ายค่ายซบภูมิใจไทย

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ภท. ในฐานะนายทะเบียนพรรคแถลงยืนยันว่า น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งถูกมติอนค.ขับออกจากพรรคนนั้น เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.น.ส.ศรีนวล ได้เข้าพบกับนายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภท. เพื่อแสดงเจตจำนงร่วมงานกับพรรค อย่างไรก็ดีเมื่อมีข้อชัดเจนทางกฎหมายแล้ว พรรคจะประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนการรับส.ส.จากต่างพรรคเข้าพรรคไม่ได้คำนึงถึงโควต้ารัฐมนตรีที่เพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลัง อนค.มีมีติขับออกจากพรรค น.ส.ศรีนวล ได้ร่วมประชุมสภาตามปกติ โดยมีแกนนำพรรคภท. อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคฯ รวมถึงส.ส.พรรคให้การต้อนรับก่อนพาขึ้นไปรับประทานอาหารที่ห้องรับรองของพรรค โดยระหว่างการประชุมน.ส.ศรีนวลได้ไปนั่งบริเวณที่นั่ง ส.ส.พรรคภท.

‘2ส.ส.ซบชทพ.-กวินนาถพปชร.

สำหรับส.ส.อนค. อีก 2 คน คือ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ที่ถูกมติพรรคขับออกนั้น ล่าสุดแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ระบุเป็นเบื้องต้นว่าจะย้ายเข้าสังกัดพรรคชทพ.แต่ทั้งนี้ยังรอขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

ส่วนน.ส. กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี อยู่ระหว่างการถูกทาบทาม โดยผู้มีอำนาจในจ.ชลบุรี และมีโอกาสที่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)

อนค.แจงขับ4ส.ส.ปมโจมตีพรรค

ขณะที่ท่าทีจากพรรคอนค.พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบวินัยและจริยธรรมของพรรคใ ห้สัมภาษณ์ถึงมติขับ 4 ส.ส.ว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงกดดันของสมาชิกส.ส.และคณะทำงานประสานงานจังหวัดของพรรคทั่วประเทศ ที่แสดงความไม่พอใจ ส.ส. กลุ่มนั้น ซึ่งมติที่ออกมาก็มาจากการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และส.ส. ทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้ที่โหวตสวนในครั้งแรกเราเรียกมาชี้แจงเหตุผลแล้ว ซึ่งตอนนั้นเราทำการภาคทัณฑ์ไว้ ส่วนเหตุผลที่ขับพ้นพรรคไม่ใช่เพราะการโหวตสวนแต่เป็นเพราะการออกมาแสดงความคิดเห็น หรือให้สัมภาษณ์ในเชิงโจมตีส.ส.คนอื่น

ล่าสุดคือ น.ส.กวินนาถ และพ.ต.ท.ฐนภัทร แสดงความเห็นไม่เห็นด้วยที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคออกมาเคลื่อนไหวชวนประชาชนร่วมแฟลชม็อบ ตนคิดว่าการให้ความเห็นติชมกับสวน เป็นคนละแบบ ฟังดูก็รู้ว่านี่คือความตั้งใจ ส่วนการคำนวนคะแนนบัญชีรายชื่อใหม่หรือไม่ ต้องรอความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และต้องรอการเลือกตั้งซ่อมที่จ.สมุทรปราการ

ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาต้อนรับส.ส.กลุ่มนี้เข้าพรรค ก็อยากบอกว่ายินดีให้ไปเลยทั้งนี้ไม่ยืนยันว่าจะไม่มีส.ส.ที่มีพฤติกรรมโหวตสวนอีก แต่ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วว่าหากทำแบบนี้แล้วจะต้องพบกับอะไรบ้าง

“สำหรับส.ส.ที่จะไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ผมบอกเขาแล้วว่าอย่าไป เพราะต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างการทำงานการเมืองในระบบรัฐสภากับการเมืองนอกสภาฯ​ต้องแยกให้ชัดเจน" พล.ท.พงศกรกล่าว

เคาะพีระพันธุ์ปธ.กมธ.แก้รธน.

ส่วนการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล )นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยหลังจากที่ประชุมสภาฯมีมติให้ตั้งกมธ.จำนวน 49 คนแย่งเป็นเป็นสัดส่วนจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 12 คนพรรคร่วมฝ่ายค้าน 19 คน พรรคร่วมรัฐบาล 18 คนแล้วจะใช้เวลาในการศึกษา 180 วัน โดยกมธ.จะประชุมกันนัดแรกในวันที่ 24 ธ.ค.นี้เวลา 14.00 น. เพื่อตั้งประธาน รองประธาน และกำหนดแนวทางในการทำงานต่อไป

“พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ติดใจ และไม่ขัดข้องที่นายพีระพันธุ์ จะเป็นประธานฯ แม้ก่อนหน้านี้ พรรคเคยเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคมานั่งในตำแหน่งนี้ เพราะเป้าหมายหลักในการตั้งกมธ.เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้จริง”นายชินวรณ์ กล่าว

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าไม่ว่าจะเป็นนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หรือนายพีระพันธ์ ก็ไม่ต่างกันมาก เพราะสุดท้ายก็ต้องอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของนายพีระพันธ์ถือว่าดีกว่านายไพบูลย์มาก เพราะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า

อนค.จี้กกต.แจงปมกู้เงิน

ส่วนความเคลื่อนไหวหลังกกต.ได้มีมติส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนค.กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเริงกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.4 ล้านบาท

น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคพร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ายื่นคำขอคัดสำนวนการสอบสวนของกกต. พร้อมกล่าวว่า ตนมีส่วนได้ส่วนเสียในคดีดังกล่าวแต่ไม่เคยได้รับข้อกล่าวหาใดๆเลย จึงเดินทางมาที่กกต.เพื่อขอคัดสำนวนว่ากกต.มีการพิจารณาวินิจฉัยคดีที่กกต.จะตัดสิทธิทางการเมือง จึงอยากทราบว่าตนและพรรคอนาคตใหม่มีความผิดอย่างไร

“ตั้งแต่เกิดเรื่องมาดิฉันไม่เคยได้เห็นข้อกล่าวหาหรือคำวินิจฉัยใดๆของ กกต.เลย จึงมายื่นหนังสือเพื่อขอดูคำวินิจฉัยขอดูข้อกฎหมายที่กกต.ใช้ และสำนวนทุกอย่างที่กกต.มีอยู่ เพื่อนำไปต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป โดยขอให้ กกต.ตอบกลับหนังสือภายใน 7 วัน”น.ส.จารุวรรณ กล่าว