เทรดในกรอบจำกัด

เทรดในกรอบจำกัด

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ แกว่งขึ้นต่อสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน น่าจะส่งผลให้หุ้นพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์แข็งแกร่งกว่าตลาด

KGI ประเมิน SET Index วันพุธไซด์เวย์ต่อ คล้ายเมื่อวานนี้... โดยธีมหลักของตลาดในช่วงสั้น ยังเป็นการเปลี่ยนกลุ่มเล่น (rotational plays) จากหุ้นเสี่ยงต่ำที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ไปยังหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก (cyclical plays)... และปัจจัยเศรษฐกิจโลกล่าสุดก็ยังหนุนแนวทางดังกล่าวอยู่ หลังจากทางการจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ พ.ย. สูงกว่าที่ consensus คาด และสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ย. แข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ แกว่งขึ้นต่อสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน น่าจะส่งผลให้หุ้นพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์แข็งแกร่งกว่าตลาด ด้านปัจจัยภายในประเทศ บ่ายวันนี้ กนง. จะแถลงผลประชุมนโยบายการเงินครั้งที่ 8 ของปีนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของ KGI ประเมิน กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% และน่าจะมีการปรับลดประมาณการ GDP ของไทยปี 2562-2563 แต่คาดว่าผลกระทบต่อ SET Index น่าจะมีจำกัด เนื่องจากประมาณการใหม่ของกนง. อาจลงมาแถวๆ ตัวเลข consensus GDP ปี 2563 ที่มองอยู่ช่วง 2.5-2.9%

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร KBANK*, EPG*, GGC*

- KBANK* (เป้าพื้นฐาน 194 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 143 บาท / แนวต้านแรก 148.5 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 153.5 บาท (Stop loss 141 บาท) 2) ประเมินตลาดอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตการลงทุนโดย ขายทำกำไรหุ้นที่ Outperform ในปีที่ผ่านมา (หุ้น Defensive) และเลือกเก็บหุ้น Laggard ที่มีโอกาสฟื้นตัวในปีหน้า อย่าง KBANK* ที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวและ Valuation ไม่แพง PBV 0.85 เท่า

- EPG* (เป้า Consensus 8.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.45 บาท / แนวต้าน 7.1 บาท (Stop loss 6.2 บาท) 2) เราประเมินราคาหุ้นปรับลงสะท้อนความกังวล i) ราคาน้ำมันปรับขึ้นแรง และ ii) อุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัว แต่จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารล่าสุด ราคาต้นทุนเม็ดพลาสติกยังไม่ปรับขึ้น ตามราคาน้ำมัน (เป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยฯคาดเรื่องวัฏจักรขาลงของปิโตรเคมี) ขณะที่ ธุรกิจฉนวน (Aeroflex) และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (EPP) โตแรงชดเชยอุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัว ทำให้คาดผลการดำเนินงาน 3Q63 (ต.ค.-ธ.ค.) จะยังเติบโตแบบ YoY 3) PE ต่ำเพียง 16.5 เท่า (-1.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)

- GGC* (เป้า Consensus 12.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 10.8 บาท / แนวต้าน 11.3 บาท และถัดไป 12.0 บาท (Stop loss 10.6 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์นโยบายรัฐ การกำหนดใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 ต้นปีหน้า เป็นบวกต่อ i) ปริมาณขาย และ ii) โอกาสกำไรสต็อก เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่จะปรับขึ้น 3) Bloomberg consensus ประเมิน PE ปี 2563 ลดลงเป็นราว 11 เท่า จากปีนี้ ที่คาดสูงราว 25.5 เท่า เนื่องจากคาดกำไรโตเด่น

หุ้นมีข่าว

(+) BBL* การันตีไม่เพิ่มทุน ดีลซื้อ แบงก์เพิ่มมูลค่า ดันกำไรปี 63 พุ่ง แจง CP-SCC* ลูกค้ารายใหญ่ (ข่าวหุ้น) ผู้บริหารแบงก์กรุงเทพ ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน ดีลการเข้าซื้อ PT Bank ของอินโดนีเซีย หนุนกำไรโตปี 63 รองรับลูกค้ารายใหญ่ กลุ่มซีพี (CP) และปูนใหญ่ (SCC*) ที่ไปลงทุนในอินโดฯ ด้านโบรกฯแนะเก็บ BBL* ผลตอบแทนระยะยาวดี ผงาดขึ้น ธนาคารชั้นนำภูมิภาค เพิ่มกำไรอนาคต หนีผลตอบแทนต่ำในประเทศ ย้ำแนวโน้ม BNLI เติบโตดี ด้านบอร์ด TMB* ชุดใหม่ประชุมวันนี้วางแผนดันขึ้นแบงก์ขนาดใหญ่

(0) ACE ขอขยายเวลาเซ็น PPA มั่นใจจ่ายไฟตามกำหนด (ทันหุ้น) ACE ยื่นหนังสือถึง กกพ.ขอขยายเวลาลงนาม PPA หลังโรงไฟฟ้า SPP Hybrid จำนวน 4 โครงการ EIA ยังไม่ได้รับอนุมัติ ลั่นหากได้รับการขยายเวลา พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน คาดจะลงนามได้ในต้นปีหน้า โดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ซึ่งคาดว่า COD ได้ใกล้เคียงกับแผนที่วางไว้ ขณะที่ปีหน้าผลงานโตต่อเนื่องต้นทุนลด

(+) TPCH ดันรายได้พุ่งเท่าตัวร่วมชิงเค้กชีวมวลชุมชน (ทันหุ้น) TPCH วางเป้าหมายรายได้ปี 2563 เติบโตทะลุ 3.2 พันล้านบาท จากปีนีที้่คาดมากกว่า 1.6 พันล้านบาท จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าครบ 6 แห่งเต็มปี แย้มสนใจร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อชุมชน กำลังผลิตรวมกว่า 700 MW คาดได้ส่วนแบ่ง 90 MW

(+) EA* ลุยงานระบบซื้อ ขายไฟฟ้า P2P จับมือกฟน.ทำเมืองจุฬาฯอัจฉริยะ (ข่าวหุ้น) EA* ลุยงานระบบซื้อ ขายไฟฟ้า ล่าสุดจับมือ กฟน.-จุฬาฯ เดินหน้าพัฒนาโครงการ CHULA Smart City นำร่องระบบซื้อขายไฟแบบ P2P อาคารอัจฉริยะ พร้อมต่อยอดติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ระบบกักเก็บพลังงาน ปั๊มชาร์จไฟฟ้า 100 แห่ง