อาจผันผวนจากข่าวกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ แต่ยังมองไกลใจสงบ

อาจผันผวนจากข่าวกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ แต่ยังมองไกลใจสงบ

สงครามการค้าไม่แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่

ช้านี้ประธานาธิปดีสหรัฐฯ ลงนามในกฎหมายส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง เป็นปัจจัยลบทางจิตวิทยาต่อตลาดเนื่องจากนักลงทุนมองเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้า อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่จีนรับรู้และยอมรับได้แล้ว เพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้ทรัมป์สามารถถอยในเรื่องของการยกเลิกภาษีที่เรียกเก็บไปแล้ว เรายังให้น้ำหนักกับการที่สงครามการค้าจะไม่แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ คาดตลาดเอเชียตอบรับเป็นลบเพียงเล็กน้อย แต่ไม่เปลี่ยนแปลงภาพใหญ่ที่คาดจะได้อานิสงค์จากมุมมองด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ยังคงมุมมองบวกต่อตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลง สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวในทิศทางที่ดี โดย GDP ไตรมาส 3/62 ออกมาที่ 2.1% สูงกว่าประมาณการที่ 1.9% เราเชื่อว่าตลาดจะมีมุมมองที่ดีต่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และลดมุมมองเชิงลบจากโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย (recession) ที่คาดว่าจะมีโอกาสต่ำลง

คณะกรรมการวัตถุอันตรายเลื่อนการแบนไป 6 เดือน โดยแบนแค่ 2 สารเฉพาะพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ขณะที่ไม่แบนไกลโฟเซต แต่ให้จำกัดการใช้ เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตเนื้อสัตว์ เนื่องจากการนำเข้าสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารสัตว์ที่สำคัญจากประเทศที่ไม่ได้แบนไกลโฟเซต อาทิ กากถั่วเหลือง จะยังสามารถทำได้ไม่สะดุด ขณะที่โมเมนตัมราคาเนื้อสัตว์ในประเทศและระดับภูมิภาค ยังได้อานิสงค์จากราคาเนื้อหมูในจีนที่สูงจากภาระขาดแคลนเพราะไวรัสหมูแอฟริกัน ส่งผลบวกต่อ CPF, GFPT, TFG

เรายังเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง ช่วงสั้นตลาดมีโอกาสผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอก และความไม่มั่นใจสถานการณ์ภายใน โดยเราคง theme การลงทุนใน 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ผันผวนระยะสั้น แต่คงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในระยะกลาง ช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า // หุ้นแนะนำวันนี้ MINT*, CPF /เก็งกำไร  jMT* (เป้า 24.00, ตัดขาดทุน 22.50), WHAUP* (เป้า 8.00, ตัดขาดทุน 5.60)

แนวรับ 1600-1605 จุด / แนวต้าน : 1615-1620 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

Beige Bookรายงาน Beige Book ชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวปานกลางในช่วงเดือน ต.ค.-กลางเดือน พ.ย. แนวโน้มการขยายตัวยังเป็นบวก ขณะที่ตลาดแรงงานตึงตัว (แรงงานยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของนายจ้าง)

คองเกรสฯ เชิญทรัมป์เข้าไต่สวนกรณีถอดถอน – สภาคองเกรสเชิญทรัมป์เข้ารับฟังการไต่สวนเรื่องกระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 4 ธ.ค. นี้

MPI หดตัว 8.45%สศอ.รายงาน ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค. หดตัว 8.45% yoy จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 2 แห่ง ประกอบกับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกโตชะลอ คาดปี 63 ดัชนี MPI เริ่มฟื้นตัว

กำไร บจ. งวด 9M6 หดตัว 15.4%ตลท.เผย หลักทรัพย์จดทะเบียน 76% ของตลาดรายงานผลประกอบการงวด 9M62 โดยกำไรจากการดำเนินงานหลักอยู่ที่ -1.3% ละมีกำไรสุทธิอยู่ที่ -15.4% yoy โดยได้รับผลกระทบหลักมาจากสงครามการค้า, เศรษฐกิจโลกและไทยโตชะลอ

GLOWสิ้นสุดคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ในวันนี้ 28 พ.ย.

ค่าระวางเรือ – ดัชนี BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,440.00 จุด เพิ่มขึ้น 14.00 จุด, +0.98%

ประเด็นติดตาม: 29 พ.ย.ดัชนีเงินเฟ้อยุโรป เดือน พ.ย. / ดุลการค้าไทย เดือน ต.ค., 2 ธ.ค. – China Caixin Manufacturing PMI เดือน พ.ย., US ISM Manufacturing PMI เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)