'จีน' สนลงทุนโมโนเรล 'พัทยา' เชื่อมรถไฟไฮสปีด 3 สนามบิน

'จีน' สนลงทุนโมโนเรล 'พัทยา' เชื่อมรถไฟไฮสปีด 3 สนามบิน

เมืองพัทยา จ่อเปิดเอกชนร่วมลงทุนโมโนเรลเชื่อมจากสถานีรถไฟความเร็วสูง–ตัวเมืองพัทยา ลงทุน 7 พันล้านบาท คาดเอกชนจีนเข้าวินลงทุนโครงการ เริ่มก่อสร้างปลายปี 2563

นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงแผนการท่องเที่ยวรองรับการขยายตัวของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า โครงการอีอีซี จะช่วยเพิ่มปริมาณ

นักท่องเที่ยวในเมืองพัทยามากกว่า 2 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันที่มีประมาณ 1.7 ล้านคน และหากโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา และเส้นทางคมนาคมอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกมาก

ดังนั้น เมืองพัทยา จึงได้เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆขึ้นมารองรับ และเชื่อมกับโครงการก่อสร้างคมนาคมขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ ดอนเมืองและอู่ตะเภา) โดยโครงการหลักๆจะเป็นการสร้างระบบรถไฟฟ้ารางเบา ที่จะเข้ามาเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่พัทยากลาง เข้าสู่ตัวเมืองพัทยา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร 

คาดว่าจะใช้งบประมาณ 7-8 พันล้านบาท ส่วนค่าโดยสารจะไม่แพงจนเกินไปอยู่ในระดับเท่าๆกับค่าโดยสารแบบเดิม ขณะที่รถสองแถวโดยสารอาจจะต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการวิ่ง จากที่เน้นในถนนสายหลักไปเป็นการเชื่อมโยงจากสถานีรถไฟฟ้ารางเบาไปสู่ตรอกซอกซอยต่างๆ และจะจัดระเบียบให้มีค่าโดยสารที่ไม่แพงจนเกินไป

“โครงการรถไฟฟ้ารางเบาจะเปิดให้เอกชนมาร่วมลงทุนในรูปแบบรัฐเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) โดยเมืองพัทยาจะเป็นตัวแทนภาครัฐร่วมลงทุนกับเอกชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบ และหาผู้ร่วมลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเป็นภาคเอกชนจากจีน"

ทั้งนี้ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2563 โดยโครงการนี้จะเปิดเดินรถได้ทันพร้อมๆกับโครงการรถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อเปิดเดินรถไฟฟ้ารางเบาจะสั่งห้ามไม่ให้รถทัวร์เข้ามาในตัวเมืองพัทยา เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด

พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ได้แก่ โครงการพัทยาออนเพียร์ (Pattaya-On-Pier) ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยเป็นการจำลองแบบ Pier 39 ในซานฟรานซิสโก จะกลายเป็นแลนมาร์คสำคัญแห่งใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้นในพัทยา ในพัทยาออนเพียร์นั้นจะประกอบไปด้วยร้านค้า ผับ บาร์ภัตตาคาร และศูนย์กีฬาทางน้ำ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ไว้สำหรับจัดกิจกรรมและงานเทศกาลต่างๆอีกด้วย

โดยโครงการพัทยาออนเพียร์อยู่ระหว่างการออกแบบที่ผ่านไปแล้ว 2 งวด จากทั้งหมด 4 งวด คาดว่าจะออกแบบเสร็จภายในเดือนเม.ย. 2563 ซึ่งพื้นที่ตั้งโครงการฯ ขณะนี้

คัดเลือกอยู่ 2 จุด ได้แก่ พื้นที่หลังวอคกิ้งสตรีทพัทยาใต้ มีเนื้อที่หลายสิบไร่ และพื้นที่บริเวณเขาพระตำหนักติดกับแหลมบาลีฮาย มีเนื้อที่มากกว่าจุดแรก แต่ทั้งนี้คาดว่าจะเลือกพื้นที่หลังวอคกิ้งสตรีทพัทยาใต้ เพื่อไม่ให้แหล่งท่องเที่ยวมากระจุกตัวอยู่ที่เมืองพัทยา ซึ่งจะเป็นการลดปัญหาจราจรติดขัด และควบคุมการรุกล้ำชายฝั่งทะเลได้ดีขึ้น

ในส่วนของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิม โดยมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่เขาพระตำหนัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาออกแบบสร้างระบบกระเช้าไฟฟ้าขึ้นเขาพระตำหนัก ซึ่งรูปแบบการลงทุนจะเป็นการเปิดสัมปทานให้เอกชนเข้ามาลงทุนทั้งหมด คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จพร้อมๆกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆในอีอีซี

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งโครงการชลบุรีพัทยาเมืองศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย อีอีซี โดยโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ในการยกระดับภาพลักษณ์ อัตลักษณ์ของชลบุรีพัทยาให้เป็นเมืองศิลปะร่วมสมัย อีอีซี จากรากเดิม ที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชลบุรีและความเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัยของพัทยา เมืองระดับโลก ให้ได้รับการยกระดับเป็นเมืองน่าท่องเที่ยว

157477911872

โดยแผนการดำเนินการกิจกรรมปี 2563 ในการส่งเสริมพัฒนาเรียนรู้ด้านศิลปะในแขนงต่างๆ ประชากรและเยาวชน เพื่อให้สามารถนำองค์ความรู้ ทรัพยากรท้องถิ่น มาต่อยอดเป็นศิลปะออกแบบและหัตถกรรม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่เยาวชน ประชาชน รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาต่อไปในอนาคต

รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.)ระบุว่า กำลังศึกษาพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง “TOD คมนาคม สร้างเมือง เมืองสร้างสุข สุขสร้างได้”โดยกำหนดให้เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มเมืองต้นแบบการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit Oriented Development :TOD) ด้านตะวันออก มีความพร้อมด้วยศักยภาพการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอีอีซี เป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ เป็นทำเลที่ดีที่สุดในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ที่สำคัญเป็นประตูสู่อาเซียน โดยเฉพาะจีนและอินเดีย และมีเม็ดเงินลงทุนพัฒนาเมืองในพื้นที่ 4 แสนล้านบาท และการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมูลค่า 2 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการศึกษาเบื้องต้นบริเวณรอบสถานีเมืองพัทยาสามารถพัฒนาได้ 4 โซนหลัก คือ 1.ย่านอาคารสำนักงานที่พร้อมรองรับทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตอย่างลงตัว 2.ศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การพาณิชย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจคล่องตัว ด้วยตำแหน่งที่ตั้งติดสถานีทำให้พื้นที่บริเวณนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับภูมิภาครองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงโรงแรมธุรกิจ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และบริการแบบครบวงจร

3.มหานครแห่งอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE City) ครบวงจร ด้วยศักยภาพและความพร้อมของเมืองพัทยาในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี และมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งรองรับพื้นที่นี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางด้านการประชุม จัดแสดง และสัมมนา

4.ชุมชนที่อยู่อาศัย อยู่สบาย เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ด้วยความสะดวกสบายด้านการคมนาคม เพราะอยู่ใกล้จากสถานีทำให้พื้นที่แห่งนี้เหมาะที่จะพัฒนาเป็นย่านที่พักอาศัยที่มีคุณภาพมาตรฐาน ทั้งอาคารแนวราบ และอาคารแนวสูงราคาถูกภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี มีร้านค้าปลีกชุมชน และสวนสาธารณะ