เลือกตั้งสภาท้องถิ่นวัดใจฮ่องกง

เลือกตั้งสภาท้องถิ่นวัดใจฮ่องกง

ฮ่องกงจัดการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ผู้คนออกไปใช้สิทธิกันมากเป็นประวัติการณ์ ด้วยถูกมองว่าเป็นมาตรวัดเสียงสนับสนุนแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารพิเศษฮ่องกง ท่ามกลางการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยยาวนานถึง 6 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นฮ่องกงมีผู้สมัคร 1,104 คน ชิงชัยใน 452 ที่นั่ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4.1 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดราว 7.3 ล้านคน สภาท้องถิ่นมีอำนาจควบคุมค่าใช้จ่ายและนโยบายระดับชุมชน เช่น สาธารณสุข การเก็บขยะรีไซเคิล เส้นทางรถบัส ส่วนใหญ่จะได้นักการเมืองโปรปักกิ่งเข้าไปนั่งในสภา

บรรยากาศการเลือกตั้ง ภายในเวลา 15.30 น. มีผู้มาใช้สิทธิแล้วกว่า 1.9 ล้านคน เทียบเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 47% โดยยังมีอีก 7 ชั่วโมงกว่าจะปิดหีบ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 1.47 ล้านคนในการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อน ผลการเลือกตั้งชุดแรกรู้ได้ก่อนเที่ยงคืน

ทางการวางกำลังตำรวจที่หน่วยเลือกตั้งบางแห่งและถนนหลายสาย แต่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่ได้มากมายนัก

หมิง หลี วัย 26 ปี ทำงานรับจัดอีเวนท์หวังว่า ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิจำนวนมากจะเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ที่กำลังขับเคี่ยวแย่งชิงที่นั่งกับผู้สมัครแชมป์เก่าผู้สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่ง

“ดิฉันหวังว่าการเลือกตั้งคราวนี้จะได้เสียงไปคานอำนาจกับเสียงสนับสนุนนักการเมืองเก่า ได้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปมากขึ้น ปัญหาสังคมกระตุ้นให้ประชาชนออกมาเลือกตั้ง และสนใจกับปัญหาการเมือง”

ด้านพนักงานอุตสาหกรรมบริการ วัย 30 ปี นาม “เจ้อ” กล่าวว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของประชาชน

“อัตราผู้มาใช้สิทธิสูง สะท้อนชัดว่าคนฮ่องกงอยากได้การเลือกตั้งอย่างเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง”

จิมมี ชาม ผู้สมัครจากแนวร่วมสิทธิมนุษยชนภาคพลเมือง ที่จัดการชุมนุต่อต้านรัฐบาลหลายครั้งในระยะหลัง และถูกกลุ่มชายรุมใช้ค้อนทุบเมื่อเดือน ต.ค. กล่าวว่า ชาวฮ่องกงหาโอกาสแสดงจุดยืนมานานแล้ว

“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะได้เสียงส่วนใหญ่หรือไม่ แต่ผมหวังว่าพลเมืองได้โหวตเพื่ออนาคตฮ่องกง”

ไมเคิล อึ้ง นักศึกษาวัย 19 ปี ที่เพิ่งใช้สิทธิครั้งแรกเปิดใจว่า แม้บัตรเลือกตั้ง 1 ใบจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้น้อยมาก แต่เขาก็หวังว่าจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ และช่วยเหลือขบวนการประท้วงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ส่วนหล่ำที่ออกไปใช้สิทธิท่ามกลางสายตาสื่อมวลชนและกล้องโทรทัศน์ให้คำมั่นว่ารัฐบาลของเธอที่หลายคนมองว่า เข้าไม่ถึงประชาชน จะรับฟังความเห็นอันเข้มข้นจากสภาท้องถิ่น

“ดิฉันหวังว่าความสงบเป็นระเบียบแบบนี้ไม่ไดเมีแค่เฉพาะวันเลือกตั้ง แต่ยังแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครอยากให้ฮ่องกงต้องกลับไปสู่ความปั่นป่วนอีกครั้ง”

ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงข้างมาก ก็จะได้ที่นั่งในสภานิติบัญญัติฮ่องกง 6 ที่นั่ง และได้ 117 จาก 1,200 ที่นั่งในคณะเลือกสรรผู้บริหาร

ขณะที่เจเรมี ชาน ผู้จัดการร้านอาหารมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนับสนุนปักกิ่งได้แสดงความเห็นเช่นกัน

“พวกเขาเชื่อว่า กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อฮ่องกง แต่พวกก่อจลาจลฟังเฉพาะเสียงที่ตัวเองอยากฟัง” ชายวัย 55 ปี อ้างถึงเหตุปล้นสะดมธุรกิจที่สนับสนุนปักกิ่ง ซึ่งสะท้อนว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของฮ่องกงสูญหายไปแล้ว

พร้อมๆ กับการเลือกตั้ง เหตุเผชิญหน้าที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค (โพลียู) ก็เข้าสู่วันที่ 7 ตำรวจยังล้อมมหาวิทยาลัยเอาไว้ โดยผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น

“การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นแทบจะเป็นการลงประชามติเรื่องการเคลื่อนไหวทางสังคมในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เสรีภาพในการออกไปลงคะแนนของผมถูกละเมิด” ผู้ประท้วงรายหนึี่งแต่งกายด้วยชุดสีแดงของมหาวิทยาลัย ปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากแดงให้ความเห็น เขาไม่สามารถหนีออกโดยหลุดพ้นจากเงื้อมมือตำรวจไปได้

ส่วนหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของทางการจีนก็เกาะกระแสเลือกตั้ง ได้โอกาสกระตุ้นชาวฮ่องกง โพสต์ภาพประชาชนเข้าแถวยาวเหยียดนอกคูหา พร้อมระบุ “ทางเลือกอยู่ที่คุณ ไปใช้สิทธิเพื่อยุติความรุนแรง”

อ่านข่าว-พรรคหนุนประชาธิปไตยฮ่องกงคว้าชัยเลือกตั้งสภาเขต