ค่าเงินส่อ 'ผันผวน' ห่วงเจรจาเทรดวอร์ ‘พลิก’

ค่าเงินส่อ 'ผันผวน'  ห่วงเจรจาเทรดวอร์ ‘พลิก’

สัปดาห์นี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ต่อเนื่อง เคลื่อนไหวในกรอบ 30.185 30.37บาทต่อดอลลาร์ และปิดตลาดที่ระดับ 30.22-23 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากประเทศไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง

ขณะที่การปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออก อาจจะช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังความเสี่ยง ซึ่งสถานะของเงินบาทถือว่ามีความปลอดภัยสูงกว่าค่าเงินของหลายประเทศในภูมิภาค อีกทั้งการที่อัตราดอกเบี้ยของหลายสกุลเงินสำคัญอยู่ในระดับติดลบ ยิ่งเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินบาทเช่นกัน

สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย”คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ จับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนเนื่องจากมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะพลิกผันไปได้ทั้งทางบวกและทางลบ และจะส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ( 15พ.ย) ปิดการซื้อขายที่ 1,602.23 จุด ลดลง 7.24 จุด หรือ 0.45% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 44,569.98 ล้านบาท  "บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)" ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าดัชนีฯมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น หลังตลาดได้สะท้อนปัจจัยการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3ปี2562 ไปมากแล้ว ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ให้กรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,590-1,620 จุด

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,466.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 21,000 บาทต่อบาททองคำ "วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล" ประเมินว่า หากราคาทองคําไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,473-1,475 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคามีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,460-1,455 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งทําให้นักลงทุนที่จะลงทุนอาจเน้นไปที่การเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวบริเวณแนวรับ โดยมีจุดขายทํากําไรในบริเวณแนวต้าน แต่หากผ่านได้สามารถถือต่อ เพื่อไปรอขายบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,484 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้