ครู-นร. 'สระบุรีวิทยาคม' โต้ปมฉาว นั่งตากแดดรอรับผอ.ใหม่

รองผอ.และนักเรียน "สระบุรีวิทยาคม" โวยคนโพสต์โซเชียลทำโรงเรียนเสียหาย โต้ปมฉาวตากแดดรอรับผอ.ใหม่

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม อ.เมือง จ.สระบุรี กรณีโซเชียลวิจารณ์เหตุให้นักเรียนรอต้อนรับผู้อำนวยการคนใหม่ จากเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยคณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับ นายณัฐนันท์ ดนูพิทักษ์ รับตำแหน่งผอ.คนใหม่ และขอเข้าพบเพื่อสอบถามขอเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ไม่พบผอ.คนใหม่ เนื่องจากติดภารกิจ พบแต่นายอนันต์ พงษ์มานุรักษ์ รองผอ.โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม

นายอนันต์ พงษ์มานุรักษ์ รองผู้อำนวยการฯ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนอยากชี้แจงให้ทางโลกโซเชียล ได้ทราบว่า กิจกรรมที่เราทำนั้น เป็นในลักษณะของการแสดงความยินดีกับท่านผู้อำนวยการใหม่ที่ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ การทำแบบนี้นั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่โรงเรียนก็เคยทำ อย่างเช่น ตอนที่เด็กนักกีฬาวอลเลย์บอลของเรา ได้รับถ้วยพระราชทานฯ ทางเราก็มีการให้นักเรียนต้องยืนแถวแบบนี้ แล้วก็เดินผ่านเพื่อแสดงความยินดีให้กับผู้ที่ทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ฉะนั้นในมุมมองของโรงเรียนก็เลยมองว่า เราไม่ได้เลือกปฏิบัติว่า ท่านผู้อำนวยการคนนี้มาแล้ว เราจะต้องมาตั้งแถวในลักษณะแบบนี้ ในภาพที่นักเรียนและคุณครูเขามอง มองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่มันเกิดขึ้นมาจากโลกโซเชียลที่ดราม่ากัน ทางเราห่วงอย่างเดียวคือ เรื่องของศิษย์เก่าที่จบไป และห่วงเรื่องชื่อเสียงของโรงเรียนสำคัญที่สุด เพราะมีอายุมา 117 ปีแล้ว แต่ละรุ่นเราก็ต้องพยายามรักษาชื่อเสียงของโรงเรียน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 ได้เล่าว่า วันนั้นได้มีการตอนรับ ผอ. พวกเราได้นั่งรอกันอยู่แล้ว ในวันนั้นอากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก แต่พวกรุ่นพี่เขาเป็นห่วงน้องก็เลยโพสต์ไปว่า ให้น้องมานั่งลำบากอะไรแบบนี้ ส่วนเรื่องการต้อนรับไม่ได้เป็นประเพณีหรืออย่างใด เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกของตนเอง เพราะพึ่งเข้ามาเรียนที่นี่ ตนนั่งรอประมาณ 30 นาที ผอ.ก็เดินมา มีการไหว้สวัสดี ปรบมือ และผอ.ก็เดินไปหอประชุม

จากนั้นพวกตนเองจึงได้แยกย้ายขึ้นเรียนตามปกติ พวกตนดีใจที่ได้มีการรับผอ.คนใหม่ เพราะว่าได้รับคะแนนด้วย พวกตนอยู่ชั้น ม.1/12 มีทั้งหมด 20 ห้อง ส่วนเรื่องเพจที่โพสต์ไปนั้น ก็อยากให้คิดก่อนโพสต์หรือให้ถามน้องๆก่อนว่าน้องเป็นอะไรไหม ก่อนที่ไปจะโพสต์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียน จึงอยากฝากบอกว่า มันไม่ได้แย่หรือร้อนขนาดนั้น พวกตนเองทนได้ ทางเพจที่เขาโพสต์ เขาก็เป็นห่วงน้องๆ แต่โพสต์โดยไม่รู้ว่า น้องๆเขาร้อนหรือเปล่า เพราะพวกตนเต็มใจที่จะทำ ก็อยากให้คิดก่อนลงเพราะจะทำให้ทางโรงเรียนเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เหตุของเหตุนั้นเกิดจากมีการขัดแย้งของครูในโรงเรียนเพราะไม่ชอบกันมาก่อน จึงมีการแชร์เหตุดังกล่าวเพื่อให้เกิดกระแสเกิดการเสียชื่อเสียงดังกล่าว