Non-Bank Sector - Underweight

Non-Bank Sector - Underweight

ประมาณการ 3Q62: แนวโน้มการเติบโตเปลี่ยนไปจากเดิม

Event

ประมาณการ 3Q62F

lmpact

KTC- กำไรสุทธิ 3Q62F 1.4 พันลบ. (+11% QoQ, +5% YoY) งวด 9M62 ที่ 4.4 พันลบ. (+12%)

เราคิดว่าผลประกอบการของ KTC จะไม่น่าตื่นเต้น เนื่องจากรายได้จากการติดตามหนี้เสียชะลอตัวลงต่อเนื่องจาก 2Q62 ตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ในทำนองเดียวกัน เราคาดว่าบริษัทน่าจะยังตั้งสำรองสูงเพื่อรักษาคุณภาพสินทรัพย์เอาไว้ ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิงวด 9M62F จะคิดเป็นประมาณ 73% ของประมาณการปีนี้ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าโมเมนตั้มของกำไรจะโตต่อเนื่องใน 4Q62

MTC - กำไรสุทธิ 3Q62F จะ1.1 พันลบ. (+9%QoQ, +15%YoY) งวด 9M62 ที่ 3.1 พันลบ. (+16%)

เราคาดว่ากำไรของ MTC จะโตในอัตราที่ชะลอลงใน 3Q62F เหมือนกับในไตรมาสก่อน ๆ โดย yield ของสินเชื่อที่ลดลงเป็นตัวกดดันผลประกอบการของ MTC ในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เร่งตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันผลประกอบการ 3Q62F เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำเกินไปใน 1H62 จะทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เร่งตัวขึ้นใน 3Q62 ในขณะที่เราคาดว่า yield ของสินเชื่อจะทรงตัวอยู่ที่ +30%

SAWAD - กำไรสุทธิ 3Q62F ที่ 918 ลบ. (+5%QoQ,ะ +20%YoY) งวด 9M62 ที่ 2.6 พันลบ.(+36%)

จากอุปสงค์สินเชื่อที่โตตามฤดูกาล เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของ SAWAD จะโตมากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มแต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้อื่น (ค่าธรรมเนียมจาก BFIT และกำไรจากการค้าหลักทรัพย์) จะหนุนรายได้ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ SAWAD และ BFIT มีพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ถึงประมาณ 2.0 พันล้านบาท ซึ่งมีการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ และทำกำไรให้บริษัทใน 2Q62 เราคิดว่ากำไรจากการค้าหลักทรัพย์จะช่วยหนุนรายได้อื่นของบริษัทใน 3Q62

แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อเป็นความท้าทาย

การขยายสินเชื่อของกลุ่ม non-bank อ่อนไหวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการอัดฉีดเงินเข้าไปที่ประชากรระดับรากหญ้า ซึ่งยิ่งมีการอัดฉีดเงินเข้าไปมากเท่าไหร่ก็จะทำให้มีการชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงที่สินเชื่อใหม่จะชะลอตัวลง ทั้งนี้ ตามกรอบเวลามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะมีการอัดฉีดเงินเข้ามาอีกในไตรมาสสุดท้ายเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อการขยายสินเชื่อของ MTC และ SAWAD

เราให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มนี้ที่ Underweight เพราะราคาหุ้นไม่ได้ถูกมากแล้ว

เราคิดว่าราคาหุ้นกลุ่ม non-bank ทั้งสามตัวค่อนข้างแพง โดยคิดเป็น forward P/E ปี 2562/63 ของ KTC ที่ 19x/16x ของ MTC ที่ 29x/23x และของ SAWAD ที่ 23x/19x ซึ่งเทียบเป็น PEG ที่สูงกว่า 1.0x สำหรับในระยะต่อไป เราคิดว่าความเสี่ยงจะอยู่ที่สัดส่วน LLR/นเชื่อ ซึ่งในกรณีของ SAWAD และ MTC มีแนวโน้มจะลดลง <3% สวนทางกับสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20% ของสินเชื่อรวมของทั้ง MTC และ SAWAD สำหรับ KTC นั้น ความเสี่ยงจะมาจากการที่
รายได้ดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามคาด (จากทั้งรายได้จากการติดตามหนี้เสีย และสินเชื่อ)

Risks

ความเสี่ยงที่ NPL เพิ่มและคชจ.ตั้งสำรองจะเพิ่มขึ้นภายใต้เกณฑ์ IFRS9