‘ประวิตร’ปัดเรียก‘ธนาธร’ สอบจ้างล็อบบี้ยิสต์สหรัฐฯ

‘ประวิตร’ปัดเรียก‘ธนาธร’  สอบจ้างล็อบบี้ยิสต์สหรัฐฯ

“ประวิตร” ปัดเรียกสอบ“ธนาธร” ปมจ้างล็อบบี้ยิสต์ หนุนหลังประท้วงนายกฯ ที่สหรัฐฯ ชี้ปชป.-ชทพ.ชิงเลือกตั้งซ่อมนครปฐม เป็นเรื่องของ 2 พรรค ด้านบรรยากาศสมัครวันแรก 6 พรรคส่งผู้สมัครลงสนาม ขณะที่ 7 พรรคฝ่ายค้านดีเดย์ พ.ย.เปิดเวทีชวนปชช.ร่วมแก้ รธน.

ความคืบหน้าจากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ระบุว่าให้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายกฎหมายตรวจสอบกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์  ล่าสุด วานนี้(30ก.ย.)พล.อ.ประวิตร ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องของหน่วยงาน ที่จะต้องไปดูว่า นายธนาธรทำผิดอะไรหรือไม่ 

ถามว่าตนจะไปเรียกอะไรเขา เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่วนที่ตนพูดคือพูดในฐานะที่ดูแลความมั่นคง ส่วนที่นายธนาธร ท้าเจอหน้า ตนจะไปเจออะไรกับนายธนาธร และไม่ได้ถือสา เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง

"ยืนยันว่า เรื่องนี้ผมไม่ได้เรียก หากจำเป็นต้องเจอกันก็ไม่เป็นอะไร เพราะสามารถคุยกันได้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ซึ่งขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง" พล.อ.ประวิตร ระบุ

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ ที่สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังดูอยู่ เช่นเดียวกับการตรวจสอบบริษัทล็อบบี้ยิสต์ที่อยู่ในประเทศไทย เรื่องนี้เรามีข้อมูลทั้งหมดและรู้อยู่แล้ว

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.3 เขต ว่า เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ต่างส่งคนของตนเองแข่งขัน เป็นเรื่องของทั้ง 2 พรรคต้องไปพูดคุยกันเอง ในส่วนของตนไม่จำเป็นที่จะต้องไปเป็นผู้ประสานในการพูดคุย เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร เรื่องนี้คิดกันไปเรื่อยว่าจะไปตัดคะแนนกัน ขอให้เป็นเรื่องของทั้ง 2 พรรค เพราะตนไม่ทราบ

ส่วนกรณีที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่และหาเสียงว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ก็คิดเอง จะคิดหรือจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ซึ่งก็ถือเป็นวิธีการหาเสียงของนายธนาธร และอยากทำอะไรก็ทำไป"

 

วันแรก6พรรคชิงสนามนครปฐม

ผู้สื่อข่าวรายงานสรุป ผลการรับสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง วันแรกมีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 6 คน ดังนี้ หมายเลข 1 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 2 น.ส.สิริขวัญ แย้มมูล พรรคพลังสังคม หมายเลข 3 นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 นางลาวัลย์ สิงห์สถิต พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 5 น.ส.ปริมปรางค์ แสงสว่าง พรรคไทยศรีวิไลย์ และหมายเลข 6 นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่

กัญจนาปัดคุยปชป.ขอหลีกทาง

น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเขต 5 จังหวัดนครปฐม กับตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่ได้พูดคุยในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ และไม่ได้ตกลงจนเป็นข้อสรุปว่าพรรคจึงส่งนายเผดิมชัย ลงรับเลือกตั้ง

"พรรคเห็นว่าตระกูลสะสมทรัพย์เป็นเจ้าของพื้นที่ในสนามเลือกตั้งนี้ เป็นศักดิ์ศรีและความผูกพันธ์ของชาวนครปฐม จึงหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่พรรคชาติไทยพัฒนาจะได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

ด้านนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ กล่าวว่าการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา แม้คะแนนของตนจะถูกทิ้งห่าง แต่ครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะหลังเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ถึงวันนี้ 5 เดือนแล้ว ตนลงพื้นที่เป็นประจำ การเมืองอยู่ในสายเลือด มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง

ปิยบุตรเชื่อฝั่งตรงข้ามรบ.มีชัย

เช่นเดียวกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคมีความมั่นใจเกิน 100% ว่าการเลือกตั้งนครปฐม จะเป็นการแสดงมติมหาชน ใครที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจดำรงอยู่ต่อไป ใครเบื่อนายกฯ คนปัจจุบัน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญ ใช้โอกาสนี้แสดงมติมหาชนให้คนทั้งประเทศได้เห็น และเราจะมีการเลือกตั้งอีกหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น จ.กำแพงเพชร ขอนแก่น และสมุทรปราการ 

เรามั่นใจว่าจะทำได้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เพียงแต่มีความสำคัญกับพรรคอนาคตใหม่ แต่ยังสำคัญต่อภาพรวมการเมืองภาพใหญ่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน การทำงานในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเรื่องแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตยที่เราพยายามต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจของ คสช. ส่วนสนามอื่นๆนั้นเป็นไปได้ที่กำแพงเพชร และขอนแก่น เราจะไม่ส่งผู้สมัคร แต่ในส่วนของสมุทรปราการ ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่จะส่งผู้สมัครลง เพราะว่าในส่วนนี้สำคัญเกี่ยวข้องกับคะแนนเสียงของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ฝ่ายค้านดีเดย์พ.ย.เปิดเวทีแก้รธน.

วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) ได้มีการประชุมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรคเพื่อร่วมกันสรุปแนวทางการทำงานในนาม “ฝ่ายค้านพบประชาชน”

โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการ พท.กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินกิจกรรมของพรรคฝ่ายค้านจากเดิมที่จะเป็นการจัดเวทีเสวนาในเชิงวิชาการ มาเป็นการจัดเวทีปราศรัย ซึ่งอาจจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ที่กทม.

นอกจากนี้ จะมีการจัดทำรายการฝ่ายค้านพบประชาชน เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีความเห็นร่วมกันว่าการขับเคลื่อนการทำงานของฝ่ายค้านจากนี้ไปจะแบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 สร้างการรับรู้ของประชาชนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา

ระยะที่ 2 สร้างความเข้าใจแก่ปัญหาประชาชน โดยจะเป็นการนำเสนอว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาและมีความสัมพันธ์กับปัญหาปากท้องอย่างไร  และระยะที่ 3 การสร้างฉันทามติจากทุกภาคส่วน โดยจะต้องเป็นรูปธรรม เพื่อให้เห็นว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

เปิดสภาสมัยวิสามัญ17ต.ค.

ขณะที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ.2562 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยท่ีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ สมควรที่จะเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 122 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2562 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี