กรุงไทยยันระบบชิมช้อปใช้ไม่ได้ล่ม แต่จุดชำระเงินห้างมีจำกัด

กรุงไทยยันระบบชิมช้อปใช้ไม่ได้ล่ม แต่จุดชำระเงินห้างมีจำกัด

ธนาคารกรุงไทยชี้ ระบบชิมช้อปใช้ไม่ได้ล่ม แต่จุดให้บริการในห้างมีจำกัดเพียงจุดเดียว ส่งผลไม่สะดวกต่อลูกค้าในการจ่ายเงิน

ธนาคารกรุงไทย ชี้แจ้งข่าวว่า ตามที่มีการแชร์ข่าวในโซเชียลมีเดียว่า ระบบชิมช้อปใช้ล่ม ทำให้ประชาชนทิ้งรถเข็นที่มีสินค้าในห้างเทสโก้โลตัส หลัก 4 เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2562 นั้น ขอยืนยันว่าในวันดังกล่าว แอพฯชิมชอปใช้ ทั้งเป๋าตังและถุงเงิน ไม่ได้ล่มตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ปัญหาที่เกิดความไม่สะดวกในห้างดังกล่าว เป็นเพราะการบริหารจัดการของห้างเอง

ทั้งนี้ตามเงื่อนไขการลงทะเบียนร้านค้าถุงเงิน 1 ร้านค้าขนาดใหญ่ ธนาคารกำหนดให้สามารถเข้าใช้งานพร้อมกันได้ 20 จุด ใน 1 จังหวัด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เงินกระจายไปสู่เศรษฐกิจฐานราก ให้ร้านค้าชุมชนได้ประโยชน์สูงสุด

สำหรับห้างเทสโก้โลตัส ได้ลงทะเบียนที่กรุงเทพฯ และให้สาขาจำนวนมากถึง 20 สาขาใช้ ทำให้ห้างเทสโก้โลตัสแต่ละสาขา มีจุดรับชำระเงินเพียง 1 จุด ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในบางสาขา

ห้างเทสโก้โลตัส สามารถบริหารจัดการจุดรับชำระเงินของตนเองได้ดีกว่านี้ หากลดจำนวนสาขาลง และเพิ่มจุดรับชำระต่อ 1 สาขาให้มากขึ้น เช่นเดียวกับห้างอื่นๆ ที่มีการบริหารจัดการที่ดีกว่า เช่น ห้างเดอะมอลล์ ใช้เพียง 3 สาขา ในกรุงเทพฯ ห้างบิ้กซีใช้ 7 สาขา ในจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีจำนวนจุดรับชำระเงินต่อสาขามากกว่า 1 จุด สามารถบริการลูกค้าได้ดีมากกว่า โดยไม่ได้ฉกฉวยประโยชน์ แต่คำนึงถึงความสะดวกสบายของประชาชนเป็นที่ตัั้ง

เจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ออกมาตรการชิมช้อปใช้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก เพื่อให้เงินได้หมุนไปสู่ชุมชน ประชาชนในจังหวัดต่างๆได้ประโยชน์อย่างแท้จริงจึงขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์จากมาตรการนี้ เดินทางไปท่องเที่ยวและใช้จ่ายตามจังหวัดต่าง ซึ่งมีสิ่งดี ๆ ให้ได้สัมผัสมากมาย

ด้านเทสโก้ โลตัส ชี้แจงถึงปัญหาดังกล่าวว่า เทสโก้ โลตัส เข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ จำนวน 20 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาสามารถใช้แอพพลิเคชั่นรับชำระเงินได้สูงสุดเพียง 1 เครื่องเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมการค้าภายในและระบบที่ได้ถูกเซ็ตมาเช่นนั้น โดยเทสโก้ไม่สามารถเพิ่มแอพพลิเคชั่นได้เองแต่อย่างใด ซึ่งปัญหาล่าช้าและขัดข้องในการชำระเงินได้เกิดขึ้นในทุกร้านค้าปลีกที่มีลูกค้าเข้าใช้บริการจำนวนมาก ขณะที่ธนาคารกรุงไทยได้ทำการอัพเดทระบบในคืนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผลว่าจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัญหาความล่าช้าและขัดข้องเนื่องจากปริมาณผู้ใช้แอพพลิเคชั่นพร้อม ๆ กันจำนวนมาก ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องพิจารณาเพิ่มความหลากหลายของช่องทางในการชำระเงินมากกว่านี้