นายกฯเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ 7 ต.ค.

นายกฯเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ 7 ต.ค.

นายกฯเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ 7 ต.ค.นี้ ติดตามภาวะเศรษฐกิจหวังคงจีดีพีขยายตัวได้ตามเป้า 3% เน้นการท่องเที่ยว และส่งออกของกระทรวงพาณิชย์

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งต่อไปในวันที่ 7 ต.ค.นี้ โดยวาระการประชุมหลักคือมี 3 เรื่องคือ 1.การติดตามสภาวะเศรษฐกิจ 2.การแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการท่องเที่ยว และ3.การติดตามภาวะกาส่งออกของประเทศ ที่กระทรวงพาณิชย์จะเข้ามารายงานสถานการณ์ล่าสุดและมาตรการที่จะส่งเสริมการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้

ทั้งนี้การประชุม ครม.เศรษฐกิจในครั้งต่อไปจะได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้คณะทำงานติดตามการทำงานของ ครม.เศรษฐกิจ ได้มีการเชิญปลัดกระทรวงด้านเศรษฐกิจ อธิบดี และผู้บริหารหน่วยงานที่จัดทำตัวเลขดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ เช่น ของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มารายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจทุกด้าน เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งตัวเลขที่ได้รับรายงานนั้น จะทำให้สามารถประเมินสถานการณ์ในรอบเดือนนั้นได้ว่า แย่กล่าวที่คิดหรือไม่ โดยเฉพาะไตรมาสที่ 3 และจะตรวจสอบดูทั้งปีว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้จะยังคงขยายตัวได้ 3% ตามที่กำหนดไว้หรือไม่ หากไม่ได้ตามเป้าหมายจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจเพื่อหารือว่าอาจต้องมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่ม

ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยวโดยก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้มีการสรุปปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงไฮต์ซีซั่นปลายปีซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งควรจะมีการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆโดยเร็วที่สุด

นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนการประชุมครั้งต่อไปได้กำหนดวาระออกมาชัดเจนแล้วว่าจะนำเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และการขับเคลื่อนงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้ามาหารือกันในที่ประชุมวันที่ 16 ต.ค.นี้ และในวันที่ 1 พ.ย.นี้จะนำเรื่องของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy)มาหารือกันต่อไป