Window dressing

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปรับขึ้น +8.37 จุด (+0.51%) ปิดที่ระดับ 1,637 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท ตอบรับสถานการณ์ Tradewar ที่ผ่อนคลายลงหลังปธน.ทรัมป์เผยว่าสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เร็วกว่าที่คาด ประกอบกับแรงหนุนการทำ Window dressing ปิด 3Q19 ในช่วงปลายเดือนก.ย. ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม FIN, ICT และ HEALTH หนุนดัชนีปรับตัวขึ้น ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 318 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,077 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX จำนวน 2,392 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,630 - 1,645 จุด โดยภาวะตลาดได้แรงหนุนจากภาวะ Tradewar ที่เป็นบวกโดยล่าสุดสหรัฐ-จีนกำหนดวันประชุมเจรจาการค้ารอบใหม่ในวันที่ 10 – 11 ต.ค.ซึ่งนักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาครั้งนี้จะเป็นไปด้วยดี เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าไปก่อนหน้านี้ ประกอบกับแรงซื้อการทำ Window dressing ปิด 3Q19 ในช่วงปลายเดือนจะเป็นตัวหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองสหรัฐที่ปธน.ทรัมป์ถูกกล่าวโทษว่าติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2020,ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/19 ของสหรัฐที่ชะลอตัวลงสู่ 2% จาก 3.1% ใน 1/19 รวมถึงทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่ยังผันผวนจะเป็นตัวถ่วงให้ภาวะตลาดมีความผันผวน ดังนั้น แนะนำซื้อเล่นรอบในกรอบ 1,630 – 1,645 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• กลุ่มท่องเที่ยว (ERW, MINT ) และส่งออก (GFPT, TU) ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณามาตรการกระตุ้นศก.ด้านการส่งออก-ท่องเที่ยวในวันที่ 7 ต.ค.
• กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
• Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

• SPA (ปิด 13.9 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 15) “ชิม ช้อป ใช้” ยอดลงทะเบียนทุบสถิติเต็มจำนวน 1 ล้านคนตั้งแต่ตี 3 สัปดาห์หน้าได้ผลบวกโดยตรงจาก China Golden week 1-7 ต.ค. เนื่องจาก SPA มีสัดส่วนลูกค้าชาวจีนคิดเป็น 50% ของรายได้รวม
• BCH (ปิด 15.3 ซื้อ/เป้า 19 บาท) ราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากมองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้วและจะเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3Q19 เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังมี Upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากประกันสังคมเพราะบริษัทไม่ได้ปรับขึ้นค่ารักษาจากส่วนนี้มานานแล้ว (ขึ้นครั้งสุดท้ายคือ ก.ค.ปี 2017)

บทวิเคราะห์วันนี้

GFPT (ปิด 17.8 ซื้อ /เป้า 21 บาท)

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+) Trade war จีนกับสหรัฐมีความคืบหน้าในทางบวก ล่าสุดกำหนดวันประชุมเพื่อแก้ข้อพิพาทในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้: แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวว่าจีนกับสหรัฐจะเปิดโต๊ะเจรจาการค้ารอบใหม่แต่ก็มีความไม่แน่นอนเนื่องจากยังไม่ได้มีการกำหนดวันประชุมที่ชัดเจนประกอบกับ โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐยังสร้างความสับสนให้กับตลาดผ่านการทวิตข้อความที่พลิกไปมา ดังนั้นการกำหนดวันประชุมที่ชัดเจนออกมาในครั้งนี้จึงเป็นความคืบหน้าในทางบวกและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่าการประชุมร่วมระหว่าง 2 ประเทศจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งจะนำไปสู่การคลี่คลายข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นบวกต่อภาคการค้าของโลกและเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ
• (-) สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังไม่แน่นอน หลังมีข่าวสหรัฐส่งระบบขีปนาวุธแพทริออต เข้าไปติดตั้งในอ่าวเปอร์เซียเพิ่มขึ้น: ปัจจุบันตลาดเริ่มคลายกังวลกับภาวะอปุทานตึงตัว หลังจากซาอุฯเปิดเผยว่าปัจจุบันแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ถูกโจมตีสามารถกลับมาทำการผลิตได้ตามปกติแล้ว สอดคล้องกับรายงานตัวเลขการผลิตรวมทั้งประเทศของซาอุฯที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเป็นระดับสูงสุดของซาอุฯที่เคยผลิตมา อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากล่าสุดมีรายงานว่ากระทรวงกลาโหมของสหรัฐเตรียมส่งทหารกว่า 200 นาย และอุปกรณ์สำหรับระบบขีปนาวุธแพททริออต เข้าไปประจำการในอ่าวเปอร์เซียมากขึ้น บ่งชี้ได้ว่าความรุนแรงในตะวันออกกลางพร้อมจุดประทุขึ้นได้ทุกเวลา
• (+) กลุ่มท่องเที่ยว - ชิม ช้อป ใช้ ทุบสถิติยอดคนลงทะเบียนเต็มตั้งแต่ตี 3 ขณะที่สัปดาห์หน้ารับผลบวก China Golden week 1-7 ต.ค.: การเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ “ชิม ช้อป ใช้” ก้าวเข้าสู่วันที่ 5 ของโครงการ ปรากฏว่ายอดลงทะเบียนทุบสถิติใหม่เนื่องจากมีประชาชนเข้าลงทะเบียนเต็มจำนวน 1 ล้านคนต่อวันตั้งแต่เวลา 3 นาฬิกาหรือตั้งแต่ตี 3 นับเป็น Sentiment บวกโดยตรงกับกลุ่มท่องเที่ยว นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะยังได้ผลบวกโดยตรงจากช่วง Golden week ของจีนในช่วง 1-7 ต.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดในช่วงวันชาติของจีนโดยคาดหมายกันว่าประชาชนชาวจีนจะเดินทางท่องเที่ยวอย่างมากทั้งในและต่างประเทศเบื้องต้นยังเชื่อว่าประเทศไทยจะยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวจีน โดย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) คาดจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 2.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 10%yoy  เราเลือก AOT MINT ERW เป็น Top pick ของกลุ่ม