ลุ้นรีบาวด์ที่แนวรับ

ลุ้นรีบาวด์ที่แนวรับ

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดปรับตัวลงต่อเนื่อง  เนื่องจากไร้ปัจจัยหนุนใหม่ ประกอบกับได้รับปัจจัยกดดันจากการเปิดเผยยอดส่งออกเดือน ส.ค. หดตัวกว่า 4%

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิกว่า 3 ร้อยลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,636.20 จุด (-4.46 จุด) Volume 6.8 หมื่นลบ. TFEX Net 13,660 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -2,440 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+เฟดนิวยอร์กเดินหน้าอัดฉีดสภาพคล่องจนถึงเดือนหน้า เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในตลาด

+สหรัฐ-จีนแถลงยืนยันการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีช่วยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

+ครม.เศรษฐกิจเคาะแหล่งเงิน 44 โครงสร้างพื้นฐานรวม 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ส่ง ครม.อนุมัติอีก 2 สัปดาห์ ใช้งบผูกพันปี 2563

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 159.72 จุด -0.59% กังวลว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ส่อเค้าล่มหลังจากเจ้าหน้าที่จีนประกาศเดินทางกลับประเทศก่อนกำหนดโดยยกเลิกการเดินทางไปเยือนฟาร์มสหรัฐ

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 4 เซนต์ -0.07% ปิดที่ 58.09 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ได้บดบังรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5

-ก.คลังรับน้ำท่วมอีสานกระทบจีดีพีภาคเกษตรโตเหลือ 2% จากเป้า 2.3-3% ส่งผลเศรษฐกิจรวมปีนี้ ลดลง 0.02-0.06%

-ก.พาณิชย์ เผยส่งออก ส.ค. หดตัว -4% จากตลาดคาด -1.8 ถึง -2.3% 8M62 มียอดส่งออก -2.2%

*จับตาสหรัฐเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย. และดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนส.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีในวันนี้รีบาวด์ที่แนวรับ 1,630 จุด หลังตอบรับข่าวเรื่องส่งออกที่หดตัวไปแล้วอีกทั้งดัชนีปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคไปแล้วช่วงสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นปัจจัยกดดันต่อการปรับตัวขึ้นคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,645 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC) หุ้น Domestic Play (ADVANC AMATA EKH SISB HMPRO) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ชิมช้อปใช้ (SPA ASAP ERW TNP)  เก็งกำไรประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันศุกร์นี้ (STEC CK UNIQ SEAFCO PYLON)

หุ้นรายงานพิเศษ

U : หัวหอกด้านธุรกิจอสังหาฯของกลุ่มบีทีเอส

กลุ่มบีทีเอสปรับโครงสร้างธุรกิจให้ U เป็นหัวหอกในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรั้พย์ของกลุ่มในการดำเนินธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่า โครงการมิกซ์ยูส การเข้าร่วมทุนกับบริษัทพัฒนาอสังหาฯในการพัฒนาโครงการเพื่อขาย โดยมีรายได้หลัก 85% มาจากธุรกิจโรงแรม

ล่าสุด U ลงนามสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสามกับกรมธนารักษ์แล้ว เตรียมทุ่มงบ 3 พันล้านบาท ก่อสร้างโรงแรมระดับลักชัวรี่ ร่วมกับอามันรีสอร์ท เนรมิตเป็นแลนด์มาร์กสำคัญริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คาดเปิดให้บริการได้ปี 2568

เมื่อเดือนเม.ย. 62 บอร์ดมีมติเข้าซื้ออาคารสำนักงานติดสถานี BTS เพลินจิต มูลค่า 800 ลบ.คาดสร้างรายได้ค่าเช่า 56 ลบ./ปี และคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไร 1.6 พันลบ.จากขาย"หมอชิตแลนด์"ใน Q4/62 หลังจากโอนที่ดิน พ.ย.นี้ โครงการดังกล่าวมีเนื้อที่ดินรวมประมาณ 11 ไร่เศษ ประกอบด้วยอาคารแฝดสำนักงานให้เช่ามีร้านค้าและสกายวอล์กเชื่อมบีทีเอสหมอชิต

ส่องหุ้น

         SPVI     แนวรับ 1.81-1.79 บาท     แนวต้าน 1.84-1.86 , 1.90 บาท

         SPRC    แนวรับ 9.70-9.65 บาท     แนวต้าน 9.90 , 10.20 บาท

หุ้นมีข่าว   

(-) KTB (Bloomberg Consensus 19.97 บาท)  มีประเด็นลบจากร่างประกาศแรงงานรัฐวิสาหกิจฉบับใหม่มีผลให้ต้องตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานเพิ่มกดดันกำไร เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารไม่ใช่หน่วยเอกชนจึงยังไม่ได้ตั้งสำรองเพิ่มเช่นธนาคารเอกชนรายอื่น

(+) BCPG (Bloomberg Consensus 20.58 บาท) ทุ่มเงินกว่า 5.3 พันล้านบาท ซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San 3A ในสปป.ลาว กำลังการผลิตรวม 69 เมกะวัตต์ ที่จำหน่ายไฟฟ้าแล้ว คาดโอนหุ้นเสร็จภายในไตรมาส 3/62 ตั้งเป้าขึ้นผู้นำธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเอเชีย (ที่มา ข่าวหุ้น )

(+) GPI (Bloomberg Consensus 2.48 บาท) เตรียมชงบอร์ดขยายงานจัดอีเวนต์นอกเหนือกลุ่มยานยนต์ คาดได้รับอนุมัติภายในไตรมาส 4/62 และเริ่มธุรกิจได้ในปี 63 ส่วนผลงานครึ่งปีหลังคาดทรงตัวจากครึ่งปีแรก หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว-กำลังซื้อในประเทศทรุดจากรับผลกระทบน้ำท่วมอีสาน ขณะที่รายได้ทั้งปี 62 จะพยายามให้โตตามเป้า 10% จากปีก่อน (ที่มา ข่าวหุ้น )

(+) TPIPP (Bloomberg Consensus 7.01 บาท) เร่งสรุปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในไทยและต่างประเทศ มั่นใจปลายปีนี้ปิดดีลในไทยอย่างน้อย 1 โครงการ พร้อมเตรียมยื่นประมูลโรงไฟฟ้าขยะ 20 เมกะวัตต์ (ที่มา ข่าวหุ้น )

(+/-) VL (ราคาเหมาะสม 2.58 บาท) ยอมรับผลงาน Q3 ชะลอตัว หลังเข้าสู่ฤดูฝน-เศรษฐกิจซบเซา แต่มั่นใจผลงาน Q4 จะกลับมาเติบโตสูง รับไฮซีซั่นธุรกิจ หนุนรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้น 20% พร้อมเดินหน้าซื้อเรือเพิ่ม-ขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ที่มา ข่าวหุ้น )

(+) NDR เผยกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง 2562 ลุยเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย หวังผลักดันผลงานทั้งปีพลิกเป็นกำไร หลังงวด 6 เดือนแรกขาดทุนราว 5 ล้านบาท เชื่อผ่านจุดต่ำสุด โดยผลประกอบการในไตรมาส 2/2562 มีรายได้ 221.13 ล้านบาท เพิ่ม 13.82% จากไตรมาสก่อน ขณะที่มีขาดทุนลดลงเหลือเพียง 0.16 ล้านบาท คาดปี 2562 รายได้แตะ 900 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น )

(+) D ส่งสัญญาณปี 2562 ธุรกิจพ้นจุดต่ำสุด ลุยเก็บเกี่ยวผลตอบแทนการเข้าลงทุนเต็มปี ตั้งเป้ารายได้แตะ 1.1 พันล้านบาท จากปี 2562 คาดทำได้ 800-850 ล้านบาท วางหมากเข้มสาขาไม่ทำเงิน กดต้นทุนลดฮวบ (ที่มา ทันหุ้น )

(+) MITSIB ประกาศพร้อมลุยปล่อยสินเชื่อรายย่อย พิโก ไฟแนนซ์ เปิดกู้ยืมประชาชนทุกอาชีพ ด้านผู้บริหารย้ำถึงระบบบริหารจัดการธุรกิจที่มีการกำหนดหน้าที่ และความรับผิดชอบชัดเจน โปร่งใสเท่าเทียมเป็นธรรม และมีประสิทธิภาพที่สามารถตรวจสอบได้ (ที่มา ทันหุ้น )

(-) BEM (Bloomberg Consensus 11.76 บาท) ชวดเงินค่าชดเชยเงินค่าเปลี่ยนแบบก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 จาก กทพ.จำนวนกว่า 382.54 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 209.18 ล้านบาท หลังศาลปกครอง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ด้านโบรกกระทบเล็กน้อยเพียง 3% เทียบกับรายได้ 2 หมื่นล้านบาท และ 11% เทียบกับกำไรสุทธิ 5.5 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TM จะลงทุน 80% ในโครงการโรงพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุในกทม. มูลค่า 166.45 ลบ. (ที่มา อินโฟเควสท์)

  • (+) PTTROR ทำแผนแต่งตัวเข้าตลาดหุ้น วางขั้นตอนชงบอร์ด PTT -กระทรวงพลังงาน มั่นใจส่งผลบวกต่อศก.ฐานราก (ที่มาอินโฟเควสท์)

ECF จะลงทุน 57.52% ใน"KPN Academy" จากกลุ่ม"ณพ ณรงค์เดช" มูลค่า 460.18 ลบ.  ด้วยหุ้นเพิ่มทุนขายให้แก่กลุ่ม"ณพ" คาดโอนหุ้นแล้วเสร็จภายใน Q1/63 (ที่มา อินโฟเควสท์)