‘สนามบินฮ่องกง’ ที่มั่นสุดท้ายวัดใจชาวโลก

‘สนามบินฮ่องกง’ ที่มั่นสุดท้ายวัดใจชาวโลก

ส่วนวันนี้ (2 ก.ย.) มีการนัดชุมนุมใหญ่อีก นักศึกษามหาวิทยาลัยประกาศไม่เข้าเรียน

คืนวันเสาร์ (31 ส.ค.) เป็นอีกคืนหนึ่งที่ผู้ประท้วงฮ่องกงถูกตำรวจปราบปรามอย่างหนัก คลิปเดือดเผยแพร่ว่อนโซเชียลมีเดีย รุ่งเช้าวันอาทิตย์ (1 ก.ย.) ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งยังไม่ท้อถอย ไปรวมกันที่นอกสนามบิน หวังป่วนการเดินทางเพื่อฟ้องให้ดลกเห็นถึงการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย

วานนี้ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ประชาชนปิดถนนเข้าสู่สนามบินฮ่องกง ที่ได้ชื่อว่ามีเที่ยวบินขึ้นลงหนาแน่นที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนผู้ให้บริการต้องสั่งปิดบริการรถไฟเข้าสนามบินในช่วงบ่าย โดยผู้ประท้วงเสื้อดำกางร่มกำบังร่างกายไม่ให้กล้องจับภาพได้ ปิดสถานีขนส่งในสนามบิน และปิดถนนหลายสายที่เข้ามาสนามบิน

ด้านนอกสนามบิน ผู้ประท้วงจุดไฟเผาเครื่องดับเพลิง เอารถเข็นมากั้นปิดถนน ทุบทำลายกล้องวงจรปิด จากนั้นตำรวจมาขับไล่ไป ฝูงชยจึงย้ายไปที่ย่านตงจงใกล้สนามบิน ใช้ท่อดับเพลิงปล่อยน้ำท่วมสถานี พ่นสีบนกำแพง และเผาธงชาติจีน

แต่บรรยากาศภายในผู้โดยสารก็ยังเข้าออกอาคารผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่องและเป็นอิสระ เครื่องบินยังคงขึ้นลงตามปกติภายใต้ท้องฟ้าเมฆปกคลุมมืดครึ้ม ไม่มีรายงานเครื่องบินล่าช้านาน แต่ผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินโดนปิดถนนต้องลงจากรถแล้วเดินลากสัมภาระเข้าสนามบินแทน

แอนดี้ ตัง วัย 26 ปี ที่มาพักผ่อนในฮ่องกงหนึ่งสัปดาห์และกำลังเดินทางกลับออสเตรเลียกล่าวว่า ไม่รำคาญเพราะเป็นเหตุสุดวิสัย

ขณะที่ นักศึกษาวัย 18 ปี ผู้ใช้นามว่าเมย์ เผยว่า จริงๆ แล้วเธอเหนื่อยมาก แต่คืนที่ผ่านมาชาวฮ่องกงนอนไม่หลับกันเลย เธอจึงต้องออกมาในวันนี้

สามสัปดาห์ก่อนผู้ประท้วงใส่เสื้อดำเคยใช้วิธีประท้วงที่สนามบินมาแล้วจนปะทะกับตำรวจ ทั้งยังทำให้เที่ยวบินหลายสายถูกยกเลิกหรือล่าช้า
“เรามีแผนขัดขวางปฏิบัติการที่สนามบิน เพื่อให้โลกหันมาสนใจสิ่งที่รัฐบาลและตำรวจทำกับเรา ถ้าเราป่วนสนามบิน ชาวต่างชาติก็จะอ่านข่าวเรื่องฮ่องกงมากขึ้น” ผู้ประท้วงไม่เปิดเผยนาม วัย 20 ปี กล่าวถึงกลยุทธ์รอบนี้

แต่ผู้สังเกตการณ์บางคนแนะนำว่า การพุ่งเป้าไปที่สนามบินอาจทำให้ประชาชนไม่สนับสนุน ด้านตำรวจเผยว่า ผู้ประท้วงปาแท่งเหล็ก ก้อนอิฐ ก้อนหิน เข้าไปในรางรถไฟใกล้สถานีสนามบิน และบุกรุกเข้าไปในราง

ความวุ่นวายทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดฮวบฮาบช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา งานแสดงสินค้านานาชาติยกเลิก ฮ่องกงเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกในรอบ 10 ปี

ส่วนจีนก็อยากจะจัดการความไม่สงบให้เสร็จสิ้นก่อนวันครบรอบ 70 ปี ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ต.ค. รัฐบาลปักกิ่งกล่าวหามหาอำนาจต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐและอังกฤษว่ายุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ

การประท้วงที่สนามบินวานนี้เกิดขึ้นหลังเหตุรุนแรงต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันเสาร์ถึงเช้าตรู่วันอาทิตย์ ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา ฉีดน้ำ และยิงกระสุนยาง ส่วนผู้ชุมนุมมีระเบิดขวดเป็นอาวุธ จุดไฟเผาบนถนนหลายสาย และขว้างปาอิฐใส่ตำรวจที่ใกล้สำนักงานรัฐบาล และสำนักงานกองทัพจีน

รถใต้ดินระงับให้บริการ สถานีโทรทัศน์เผยแพร่ภาพประชาชนออกันอยู่ที่สถานีโดยกางร่มป้องกันตัวเอง แล้วก็มีตำรวจบุกเข้าไปทุบทีคนไม่เลือกหน้า

ตำรวจจับกุมประชาชน 40 คนในสถานีปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ฐานต้องสงสัยขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ชุมนุมผิดกฎหมาย และสร้างความเสียหายทางอาญา สถานีรถใต้ดิน 3 แห่งปิดให้บริการต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์

องค์กรสิทธิมนุษยชน “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล” เรียกร้องให้สอบสวนเหตุรุนแรงที่สถานีรถไฟใต้ดิน

“ความรุนแรงที่เกิดกับตำรวจเมื่อวันเสาร์ ไม่ใช่ข้อแก้ตัวให้เจ้าหน้าที่ไปบุกที่อื่นได้อีก”

ในช่วงที่ฮ่องกงกำลังวุ่นวายหนักขึ้นทุกที รัฐบาลปักกิ่งก็จับตาอย่างใกล้ชิดสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน โพสต์วีดิโอบนทวิตเตอร์เมื่อดึกวันเสาร์ ภาพตำรวจปราบจลาจลจีนซ้อมปราบจลาจลในเมืองเสิ่นเจิ้นชายแดนฮ่องกง

วันเสาร์ที่ 31 ส.ค. ถือเป็นวันครบรอบ 5 ปี ที่จีนปฏิเสธไม่ให้สิทธิฮ่องกงเลือกผู้นำโดยตรง นำไปสู่ขบวนการปฏิวัติร่มประท้วง 79 วัน ในปี 2557 ก่อนจะค่อยๆ อ่อนแรงลงโดยที่รัฐบาลไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย