ค่าเงินสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบ กดดันตลาดหุ้นเอเชียและไทย

ค่าเงินสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบ กดดันตลาดหุ้นเอเชียและไทย

เจรจาการค้าไม่คืบหน้า ราคาน้ำมันถูกกดดันจากความขัดแย้ง

ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงหลังประธานาธิปดี ทรัมป์ แสดงความเห็นว่าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ไม่คืบหน้า และยังไม่ใกล้เคียงการบรรลุข้อตกลงทางการค้า รวมถึงกลับมาขู่ว่าสหรัฐ สามารถเก็บภาษีเพิ่มเติมบนสินค้านำเข้าวงเงิน 3.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

น้ำมันดิบปรับลดลง คลายกังวลอิหร่าน หลังรมว.กลาโหมสหรัฐฯ ได้แถลงว่าอิหร่านพร้อมที่จะเข้าร่วมเจรจาในประเด็นโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ประธานาธิปดีอิหร่าน ได้กล่าวเมื่อวันจันทร์ ยืนยันพร้อมที่จะจัดเจรจากับสหรัฐฯ หากยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำกว่าปีก่อน เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มที่ใช้น้ำมันเป็นต้นทุน ได้แก่ เดินเรือ เป็นต้น

ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากครม.ใหม่ ในการแถลงนโยบายรัฐบาล 24-25 ก.ค. คาดจะเห็นมาตรการผลักดันราคาสินค้าเกษตร รวมถึงเพิ่มกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ ส่งผลดีต่อกลุ่มค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม

เน้นการเก็งกำไรเป็นรายตัว (selective buy) รับอานิสงค์ ครม.ใหม่เร่งอัดฉีดงบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนกลุ่ม ค้าปลีก/รับเหมาฯ/นิคมฯ อาทิ STEC, CK, SEAFCO, WHA, ROBINS, BJC รวมถึงหุ้นกลุ่มอาหาร หรือ สาธารณูปโภคที่ราคายังขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม ขณะที่ สามารถเลือกเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ PTT, TOP, PTTGC, SPRC, IRPC, BANPU, BPP, WHAUP, GUNKUL*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL เป็นต้น / เก็งกำไร AQUA*, EPCO*, PRM*, TTA*, PSL*, VL*

ภาพรวมกลยุทธ์: ค่าเงินสหรัฐที่แข็งค่า ยังกดดันหุ้นในเอเชีย รวมถึงกดดัน SET พักตัวโดยมีแนวรับ 1725 และ 1705 จุด โดยบรรยากาศการเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็กยังเป็นบวก กว่าหุ้นขนาดใหญ่ // หุ้นแนะนำวันนี้ WHAUP*, MBK* เก็งกำไร TTCL* (เป้า 12 ตัดขาดทุน 10), MFEC* (เป้า 4.90 ตัดขาดทุน 3.86)

แนวรับ 1720 / แนวต้าน : 1735 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

บริษัทสหรัฐฯย้ายฐานการผลิตออกจากจีน – บริษัทสหรัฐฯหลายแห่งตัดสินใจย้ายฐานการผลิตออกจากจีน โดย Crocs, GoPro และ Yeti ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นเพื่อเลี่ยงการเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐที่ระดับ 25% ขณะที่แอปเปิล อิงค์ อยู่ในระหว่างการพิจารณา // Lovesac Co. ปรับลดสัดส่วนการผลิตในจีนลงเหลือ 60% จาก 75%

ยอดส่งออกไก่ 5 เดือนแรก โต 15% – ภาพรวมการส่งออกเนื้อไก่ของไทย 5 เดือนแรก ขยายตัว 15% yoy โดยเป็นการขยายตัวดีในทุกตลาด โดยเฉพาะจีนที่นำเข้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไก่ เพิ่มขึ้นประมาณ 1462% จากผลของการเร่งนำเข้าเพื่อชดเชยปริมาณเนื้อหมูในจีนที่ลดลงจากโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกัน

ทรัมป์เล็งปรับเพิ่มเกณฑ์สินค้า made of America – ทรัมป์ เล็งปรับเพิ่มเกณฑ์สินค้า "made in America" โดยสินค้าที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นสินค้า "made in America" นั้น จะต้องมีการผลิตมากกว่า 75% (95% สำหรับสินค้าประเภทเหล็กและเหล็กกล้า) จากระดับเดิมที่ 55%

ยอดค้าปลีกสหรัฐฯโตดีกว่าคาด – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก เดือน มิ.ย. โตขึ้น 0.4% yoy มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 0.1% yoy โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์

SUPER – เตรียมออกกองทุน SUPERIF ไม่เกิน 515 ล้านหน่วย ราคา 10 บาท/หน่วน กำหนดจองซื้อ 22-26 ส.ค.คาดอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 7.49%

ประเด็นติดตาม: 17 ก.ค. – สุนทรพจน์ประธานเฟด, 18 ก.ค. – Beige Book, 24 ก.ค. – US manufacturing PMI // EU manufacturing PMI เดือน ก.ค., 25 ก.ค. – ECB meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)