ยกเมกะโปรเจคฟิลิปปินส์ป้องหายนะศึกการค้า

ยกเมกะโปรเจคฟิลิปปินส์ป้องหายนะศึกการค้า

ผู้เชี่ยวชาญชี้ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของฟิลิปปินส์ จะป้องกันเศรษฐกิจภายในประเทศจากผลกระทบอันเลวร้ายที่เกิดจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

นางเอพริล สกินเนอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ที่มีสำนักงานใหญ่ในอังกฤษ ระบุในรายงานเรื่อง “การก่อสร้างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางสงครามการค้าเดือด” ที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า แผนอันทะเยอทะยานของรัฐบาลฟิลิปปินส์ในการเปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าสูงขึ้นภายใต้ชื่อ “บิลด์ บิลด์ บิลด์” จะเป็นเกราะคุ้มกันเศรษฐกิจภายในประเทศจากภาวะชะลอตัวทั่วโลกที่ส่วนหนึ่งเกิดจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

“เพื่อตอบสนองภาวะชะลอตัวของการเติบโตทั่วโลกบางส่วน รัฐบาลทั่วภูมิภาคต่างเพิ่มการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซียมีแนวโน้มด้านนี้แข็งแกร่งที่สุด เพราะรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะลงทุนรวม 5 แสนล้านดอลลาร์ใน 4 ปีข้างหน้า ให้กับโครงการการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีความต้องการเงินทุนมหาศาล” นางสกินเนอร์ชี้

ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ คาดการณ์ว่า 3 ประเทศอาเซียนดังกล่าวจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งด้านการก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐ-จีนก็ตาม

“อัตราการเติบโตเฉลี่ยสำหรับการก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ในฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย น่าจะเร็วขึ้นในเร็ว ๆ นี้และเฉลี่ยอยู่ที่ 19% ต่อปีในช่วงปี 2562-2566 เทียบกับ 11% ต่อปีในปี 2562 อานิสงส์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่องของความต้องการภายในประเทศและการอัดฉีดงบประมาณมหาศาลในโครงการโครสร้างพื้นฐานที่รัฐสนับสนุน

ออกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ฟิลิปปินส์มีความเปราะบางต่อสงครามการค้าสหรัฐ-จีนน้อยที่สุดใน 12 เศรษฐกิจของเอเชีย ซึ่งรวมถึงจีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม นอกจากนั้น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคที่มีเป้าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงปี 2567