ทปอ.คลอดปฎิทินทีแคส 2563

ทปอ.คลอดปฎิทินทีแคส 2563

ทปอ.คลอดปฎิทินทีแคส 2563 ยันใช้ระบบเดียวกับทีแคส 2562 ขณะที่ทีแคส 2564- ทีแคส 2566 จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงโดยระบบจะสมัคร 5 แบบเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนการยืนยันสิทธิ์

วันนี้ (25 ส.ค.2562) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.)กล่าวภายหลังการประชุมในการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และการประชุมสามัญสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ครั้งที่ 4/2562 และการประชุมสามัญสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำประเทศไทย (สออ.ประเทศไทย) ครั้งที่ 2/2562 ว่า ที่ประชุม ทปอ.ได้มีการสรุปทีแคส 2562 ซึ่งเป็นระบบที่มีการเปลี่ยนตามปัญหาที่เกิดขึ้นในทีแคส 2561 ดังนั้น ในปี 2563 ทีแคส จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะยังเป็นเป็นไปตาม ทีแคส 2562 แต่ระบบใดๆ ในโลกล้วนมีการเปลี่ยนแปลง และจากการศึกษาข้อมูล พฤติกรรมของนักเรียนในระบบทีแคส 2562 พบว่า น้องๆนักเรียนได้มีการเลือกเข้าเรียนที่แตกต่างไปจากในอดีต ฉะนั้น ทีแคส 2564-ทีแคส 2566 จะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง โดยในปี 2564 จะใช้ระบบสมัคร 5 แบบ ยืนยันสิทธิ์ 4 รอบ จากเดิมจะใช้ระบบสมัคร 5 แบบยืนยันสิทธิ์ 5 รอบ ซึ่งจะเริ่มจัดสอบความถนัดทั่วไป(แกต )และความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (แพต) ใหม่ ซึ่งทีแคส 2564-2566 ใช้ระบบ Double sorting เพิ่มโอกาสให้นักเรียนได้ที่นั่งความต้องการและเรียกสำรองที่นั่งให้ ม/ส

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ส่วนระบบทีแคส 2565 ใช้ระบบทีแคส 2564 ใหม่ ประชาสัมพันธ์การรวมรอบยืนยันสิทธิ์รอบ 1 และรอบ 2 รวมทั้งจะเตรียมความพร้อมการปรับข้อสอบ 9 วิชาสามัญ และทีแคส 2566 จะใช้ระบบทีแคส 2566ใหม่ คือ สมัคร 5 แบบยืนยันสิทธิ์ 3 รอบ ใช้เกณฑ์การคัดเลือก แอดมิชชั่นใหม่ และใช้คะแนนผลการสอบรายวิชาแกต/แพตใหม่ และ 9 วิชาสามัญรูปแบบใหม่ โดยทปอ.ได้มีการลงทุกพื้นที่ทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่นักเรียน ผู้ปกครอง โรงเรียน และครูแนะแนว เพื่อให้ทราบว่าทีแคส 2563-ทีแคส 2566 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง อีกทั้ง ขณะนี้ ทปอ.ได้ส่งข้อมูลบิ๊กดาต้าถึงความต้องการของเด็กว่าจะเรียนสาขา/คณะใด และไม่ต้องการสาขา /คณะใด สละสิทธิ์ในสาขาใดไปยังอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อให้มหาวิทยาลัยปรับตัว


ทั้งนี้ สำหรับปฎิทินทีแคส 2563 สอบแกต/แพต 22-25 ก.พ. 2563 ประกาศแกต/แพต 1 เม.ย.2563 สอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) 25ก.พ.-1 มี.ค.2563 ประกาศผลสอบโอเน็ต 27 มี.ค.2563 สอบ9 วิชาสามัญ 14-15 มี.ค.2563 ประกาศผลสอบ 9 วิชาสามัญ 5 เม.ย.2563
ส่วนการประกาศผลทีแคส 2563 นั้น ในรอบที่ 1 แฟ้มสะสมผลงาน (Protfolio) 2ธ.ค.2562- 4 ก.พ.2563 รอบที่ 2 โควต้า 6 ก.พ.2563 -25 เม.ย.2563 รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน 17 เม.ย.2563 -19 พ.ค.2563 รอบที่ 4 แอดมิชชั่น 9 พ.ค.2563 -8 มิ.ย.2563 และรอบที่ 5 รับตรงอิสระ 30 พ.ค.2563 -17 มิ.ย.2563

ประธานทปอ. กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมทปอ.ได้มีการแจ้งเกี่ยวกับการลงทะเบียนข้ามมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้มหาวิทยาลัยได้มีการดำเนินการแล้ว เช่น หากนักศึกษาเรียนอยู่ที่มจพ. จะไปเรียนในสาขาอื่น มหาวิทยาลัยอื่น ก็สามารถเรียนได้ ต่อไปจะไม่มีกำแพงระหว่างคณะ มหาวิทยาลัย โดยการลงทะเบียนข้ามมหาวิทยาลัยกำลังพัฒนาให้อยู่ในแพลตฟอร์มที่ง่ายขึ้น เช่น ลงทะเบียนข้ามคณะบนโทรศัพท์มือถือได้ ส่วนการได้รับปริญญานั้น นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนข้ามมหาวิทยาลัยหากเรียนจบตามหลักสูตรในมหาวิทยาลัยที่ตนเองข้ามไปเรียนก็สามารถขอจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยนั้นๆ ได้


นายพีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้ช่วยเลขานุการทปอ. กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า ทีแคส 2562 พบว่า กลุ่มสาขาที่มีอัตราการแข่งขันสูงสุด นั่นคือ กลุ่มสาขาแพทย์ศาสตร์ 1:9.24 แต่เมื่อพิจารณาลงไปแต่ละสาขาที่มีอัตราการแข่งขันสูง พบว่า สาขาทันตแพทยศาสตร์ 1:15 และสาขาเภสัชศาสตร์ 1:14 ขณะที่ สาขาที่แข่งขันน้อยที่สุด คือ สาขาศิลปกรรม 1:2.7 ส่วนสาขาที่ผ่านการคัดเลือกมากที่สุด คือ สาขาครุศาสตร์ และสาขาสังคมศาสตร์ สำหรับสาขาที่เด็กสละสิทธิ์มากที่สุด คือ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ และสาขาสุขภาพ 35.6%


"ข้อมูลบิ๊กดาต้าที่เรามี เช่น สถิติของแต่ละสาขา และหลักสูตรที่เด็กเลือกเรียน อัตราการแข่งขัน ข้อมูลการสละสิทธิ์ อาทิ รอบ3 พบว่า มีการสละสิทธิ์ ทุกอันดับบางรายติดอันดับ1 ก็ยังสละสิทธิ์ เป็นต้น รวมทั้งเห็นข้อมูลด้วยว่า เด็กบางคน ติดรอบ 3 ในสาขาและมหาวิทยาลัยหนึ่ง แต่สละสิทธิ์ และสมัครรอบ 4 โดยเลือกในสาขาและมหาวิทยาลัยเดียวกันกับรอบ 3 ซึ่งบางรายก็สอบติด บางรายก็สอบไม่ติดในรอบ 4 เพราะเด็กมีความมั่นใจว่า ในเมื่อรอบ 3 สอบติด รอบ 4 ก็ต้องสอบติด และอยากมีตัวเลือกอื่นในรอบ 4 ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า เด็กมีความโลเล และอยากลองของ โดยที่ลืมไปว่า รอบ 3 และ รอบ 4 คนละเกณฑ์กันทั้งเห็นว่า มหาวิทยาลัยในเมืองและมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ มีอัตราการแข่งขันสูงกว่า มหาวิทยาลัยนอกเขตเมือง เป็นต้น" นายพีระพงศ์ กล่าว