“ซีดีจี” ปั้นนวัตกรเสริมแกร่งธุรกิจ

“ซีดีจี” ปั้นนวัตกรเสริมแกร่งธุรกิจ

ดันองค์กรสู่อินโนเวชั่น คัลเจอร์เต็มรูปแบบในปี 63

ซีดีจี เผยเทรนด์อินโนเวชั่น คัลเจอร์ คือ กุญแจความสำเร็จองค์กรยุคใหม่ เร่งสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ปั้นพนักงานสู่นวัตกร เพิ่มทักษะปลูกฝังอินโนเวชั่น ผ่านโครงการบ่มเพาะนวัตกรรมภายใน ตั้งเป้าขึ้นชั้นคอร์ปอเรท อินโนเวชั่นเเต็มรูปแบบภายในปี 2563

นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ซีดีจี กล่าวว่า การทรานฟอร์มองค์กรเป็นสิ่งที่หลายหน่วยงานกำลังทำอยู่ปัจจุบัน สิ่งสำคัญ คือ ทักษะบุคคลในองค์กรที่จำเป็นต้องถูกพัฒนาให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง ทักษะเกิดใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจและถูกนำมาพัฒนาคนทำงานต่อเนื่องจากนี้และในอีก 3 ปี ข้างหน้า คือ การคิดเชิงวิเคราะห์และการสร้างนวัตกรรม เทรนด์ด้านอินโนเวชั่น คัลเจอร์ หรือการสร้างวัฒนธรรมด้านเทคโนโลยีให้องค์กรจึงเป็นตัวแปรสำคัญ หรือเรียกว่าเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จขององค์กรยุคใหม่ที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม

“มีผลสำรวจหลายงานวิจัย พูดถึงความสำเร็จการสร้างนวัตกรรมองค์กร โดยระบุว่า มากกว่า 66% ของรายได้ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เพื่อเสนอสินค้าและบริการใหม่ เป็นทางเลือกให้ลูกค้า นับเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพองค์กรที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จดังกล่าว จึงต้องเริ่มจากพนักงานภายใน ทรัพยากรสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาเป็นอันดับต้น โดยปี 2565 มากกว่า 54% ของพนักงานทั้งหมดจะได้รับการพัฒนาทักษะความสามารถด้วยการเพิ่มและต่อยอดทักษะในตำแหน่งงานของตัวเอง มากกว่า 35% จะถูกเข้าโปรแกรมฝึกเพิ่มเติมสูงถึง 6 เดือน เน้นการคิดเชิงวิเคราะห์และสร้างนวัตกรรม ซีดีจีเองก็มุ่งไปทิศทางนี้"

นายนาถ กล่าวว่า แต่เดิมอินโนเวชั่นถือเป็นหนึ่งในคอร์ แวลูองค์กร เริ่มจากคัดสรรพนักงานที่มีทัศนคติในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนปลูกฝังให้คนในองค์กรมีอินโนเวชั่นด้วยผลงานและกิจกรรมต่าง ๆ โดยสิ่งที่ทำตลอดมา คือ ซีแอนด์จี อินโนเวชั่น อวอร์ดส (C&G Innovation Awards) กิจกรรมที่ส่งเสริมให้พนักงานร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งการเริ่มจากไอเดียใหม่ๆ และเป็นงานสำเร็จแล้ว เป็นโซลูชันที่พร้อมเสนอให้ลูกค้าได้ใช้งานจริง

สำหรับทิศทางและเป้าหมายการสร้างอินโนเวชั่น คัลเจอร์ของซีดีจีจากนี้ จะมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของบุคคลเป็นสำคัญ เพราะโซลูชันที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อนำเสนอลูกค้า ล้วนมาจากความรู้ความสามารถของพนักงาน เริ่มจากปลูกฝังค่านิยมการเป็นนวัตกรให้พนักงานซีดีจีทุกคน เปิดกว้างให้แสดงวิสัยทัศน์เพื่อปรับปรุง และพัฒนาการทำงานของตัวเองและทีมผลักดันบุคลากรภายในให้เพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นด้วยหลักสูตรที่เปิดสอนในองค์กร เน้นสร้างสิ่งใหม่ด้วยแนวคิดอย่างมีตรรกะ พร้อมใช้งานได้จริง ก่อนต่อยอดสู่เวทีประกวดอินโนเวชั่นระดับองค์กร และระดับประเทศ รวมทั้งตั้งศูนย์การเรียนรู้และบ่มเพาะนวัตกรรม ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการพัฒนาและต่อยอดอินโนเวชั่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้นวัตกรรมและส่งเสริมการเกิดนวัตกรรมที่หลากหลายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและต่อยอดสู่การพัฒนาสังคม

"การสร้าง อินโนเวชั่น คัลเจอร์ อย่างเป็นรูปธรรมของซีดีจีที่บ่งบอกถึงความเป็นคัลเจอร์องค์กรอย่างชัดเจน เพื่อสนับสนุนให้พนักงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในงานที่ทำในชีวิตประจำวัน นำงานที่ทำเสร็จสมบูรณ์และใช้งานได้จริงมาพัฒนาต่อ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานได้ฝึกคิด พัฒนาต่อยอด เห็นได้จากผลงานล่าสุดอย่าง “Bus on mobile Service” หรือ BOMs ถูกพัฒนาต่อยอดและมีการขายแล้ว ภายใต้แบรนด์นอสตร้า โลจิสติกส์ ของบริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี" นายนาถ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ซีดีจีพร้อมเป็นส่วนหนึ่งสนับสนุนการเดินหน้างานดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น นำจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสนับสนุนภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ สร้างการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน ผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ก้าวสู่ความเป็นสมาร์ท กอฟเวอร์เมนท์ สนับสนุนด้านอี-ซิติเซ่น เซอร์วิส โซลูชั่น เพื่อบริการประชาชนดีขึ้น