กลยุทธ์การลงทุน (1 ส.ค.62)

กลยุทธ์การลงทุน (1 ส.ค.62)

พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. - ปรับหุ้นในพอร์ตให้เสี่ยงต่ำลง... เผื่อตลาดปรับฐาน

พอร์ตหุ้นแนะนำ ก.ค. ลดลง 0.5% แต่ยังให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดเล็กน้อย

ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พอร์ตจำลองหุ้นแนะนำปรับลดลง 0.5% แต่ยังเด่นกว่าดัชนี SET ซึ่งลดลง 1.2%อยู่เล็กน้อย โดยหุ้นเพียงตัวเดียวที่ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งคือ MBK* ซึ่งวิ่งขึ้นมาถึง 8.2% เนื่องจากตลาดคาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2Q62-4Q62 เนื่องจากพ้นช่วงที่ต้องเร่งใช้จ่ายการตลาดไปมากแล้ว ส่วนหุ้นที่ขยับลดมากคือ GLOBAL* ซึ่งลดลง 6.2% เนื่องจากความกังวลกับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ในขณะที่ STEC* ก็ลดลง 7.4% หลังจากที่ผู้เล่นในตลาดมองว่ารัฐบาลใหม่อาจจะเน้นกระตุ้นการบริโภคก่อนแล้วค่อยหันมาเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทีหลัง ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปี 2562 พอร์ตหุ้นแนะนำของเราให้ผลตอบแทนรวม 18.7% ซึ่งสูงกว่า SET Index ที่ปรับขึ้นมา 9.5%

มุมมองตลาดหุ้น ส.ค. ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับฐานต่อ เรามองว่านักลงทุนคาดหวังมากเกินไปกับนโยบายการเงินของ ธ.กลางหลักๆ

เรามีมุมมองลบเล็กน้อยกับแนวโน้ม SET Index เดือนสิงหาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งแรกของเดือน ซึ่งเมื่อพิจารณาโมเดลการประเมินมูลค่าหุ้นแบบ top-down ของเราก็พบว่ามีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วง P/E ปี 2562 ที่ 16.0x ซึ่งหมายถึงระดับดัชนี SET ที่ 1,670 จุด เนื่องจาก i)เรามองว่าตลาดการเงินโลกในปัจจุบันคาดหวังมากเกินไปว่าจะมีการลดดอกเบี้ยทั่วโลก ซึ่งมีโอกาสผิดหวังได้ง่าย ii) yield curve ของไทยขยับลดลงมาแล้วเพื่อสะท้อนถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดลง, เงินบาทที่แข็งขึ้น และการปรับเพิ่มแนวโน้มเรตติ้งของ Fitch และ Moody’s เพราะฉะนั้น เราจึงมองว่าหาก yield ลดลงอีก ก็จะยิ่งทำให้ earnings yield gap ถ่างกว้างขึ้นซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น iii) GDP ของไทย และผลประกอบการงวด 2Q62 ดูไม่ดีเท่าไหร่ และยังมีโอกาสที่จะมีการปรับลดประมาณการ EPS ลงอีก แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าจะมีการลดดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2563 และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ในระดับปานกลาง ซึ่งทำให้เราเชื่อว่ายังมี upside ถึงเป้ า SET Index กลางปี 2563 อีก เพราะฉะนั้นหากตลาดปรับลดลงในเดือนสิงหาคมก็จะเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะกลางเข้าช้อนซื้อได้

หุ้นเด่นเดือนสิงหาคม: เน้นหุ้นที่กำไรไตรมาสสองน่าจะแข็งแกร่ง และหุ้นปันผลเด่น

เรามองว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะปรับฐานต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม ดังนั้นเราแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ และหันมาเลือกหุ้นแบบ bottom-up โดยเฉพาะกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มแข็งแกร่งใน 2Q62 และน่าจะจ่ายปันผลดี เราเลือกธีมการลงทุนเอาไว้สี่ธีมในเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งจะเน้นที่การบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว โดยในกลุ่มนี้เราเลือก CPALL* กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่กำไรแข็งแกร่งใน 2Q62 อย่างเช่น MAJOR* ซึ่งจะได้อานิสงส์จากโปรแกรมหนังเด็ดที่ลงโรงฉายติดต่อกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และMBK* ซึ่งจะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดน้อยลง กลุ่มที่สามคือกลุ่มที่จ่ายปันผลดี และราคาหุ้นผันผวนต่ำอย่างเช่น KKP* และ LH* ส่วนกลุ่มสุดท้าย เราเลือก TOP* ในฐานะที่เป็นโรงกลั่นที่จะผลประกอบการจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญใน 2H62