หัวเว่ยรายได้ครึ่งปีพุ่ง23.2%

หัวเว่ยรายได้ครึ่งปีพุ่ง23.2%

หัวเว่ยรายงานรายได้ครึ่งปีแรกโต23.2% สวนกระแสแรงต้านทางการเมือง ด้านตัวแทนสหรัฐ-จีนฟื้นเจรจาพิพาทการค้าที่เซี่ยงไฮ้

หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากจีน แถลงวานนี้ (30 ก.ค.) รายได้รวมครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 23.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 รายได้รวมอยู่ที่ 4.01 แสนล้านหยวน (5.82 หมื่นล้านดอลลาร์) กำไรสุทธิ 8.7% พร้อมย้ำว่า ปฏฺิบัติการดำเนินไปอย่างราบรื่น บริษัทยังอยู่ดีเหมือนเดิม

ธุรกิจให้บริการโครงข่ายที่ต้องขายอุปกรณ์เครือข่ายหลักทำยอดขายได้ 1.46 แสนล้านหยวน ปัจจุบันบริษัททำสัญญา 5จีเชิงพาณิชย์กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำทั่วโลก 50 ราย

ธุรกิจเพื่อผู้บริโภคซึ่งขายสมาร์ทโฟน แทบเล็ต พีซี และผลิตภัณฑ์สวมใส่ได้ ทำรายได้ 2.2 แสนล้านหยวน

ครึ่งปีแรกหัวเว่ยส่งมอบสมาร์ทโฟน 118 ล้านเครื่องรวมทั้งแบรนด์ออเนอร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปี 2561

นายเหลียง หัว ประธานหัวเว่ย เผยว่า รายได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดเดือน พ.ค. และเนื่องจากครึ่งปีแรกทำไว้ดี หัวเว่ยจะเติบโตต่อไปอีกในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนการที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำถือว่าเป็นอุปสรรคที่อาจส่งผลต่อการเติบโตในระยะสั้น

รายงานล่าสุดจากบริษัทวิจัยคานาลิสเผยว่า หัวเว่ยครองตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก วัดจากปริมาณการส่งมอบไปเรียบร้อยแล้ว ในจีนบริษัทยังรักษาการนำไว้ได้ ครองส่วนแบ่งการตลาด 38.2% ไตรมาสเดือน เม.ย.-มิ.ย. ในช่วงที่คู่แข่งหลักๆ มือตก เมื่อพิจารณาในภาพรวม 64% ของสมาร์ทโฟนที่หัวเว่ยส่งมอบในไตรมาสนี้อยู่ที่จีน

“การที่หัวเว่ยถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ ทำให้ตลาดต่างประเทศไม่แน่นอน แต่ในจีนแบรนด์เติบโตเร็วขึ้นมาก กลยุทธ์หลักของบริษัทยังคงเน้นลงทุนขยายออฟไลน์เชิงรุก และดึงลูกค้าจากแบรนด์คู่แข่ง สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐก็ช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้ด้วย” นายโม เจีย นักวิเคราะห์จากคานาลิสกล่าว

ส่วนข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน วานนี้ตัวแทนเจรจาทั้งสองฝ่ายเริ่มเจรจากันที่นครเซี่ยงไฮ้

เป็นการประชุมแบบพบหน้าค่าตาครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นชอบรืื้อฟื้นการเจรจา นอกรอบการประชุมจี 20 ที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือน มิ.ย.

การเจรจา 2 วัน ฝ่ายสหรัฐนำทีมโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้า และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง

ฝ่ายจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีหลิวเหอเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมมาคือนายจง ชาน รัฐมนตรีพาณิชย์ ผู้ถูกมองว่าเป็นนักเจรจาสายแข็ง