การเมือง ทำให้พี่น้องคู่นี้ ประยุทธ์-เสรีพิศุทธ์ ‘ตัดขาดกัน’

การเมือง ทำให้พี่น้องคู่นี้ ประยุทธ์-เสรีพิศุทธ์ ‘ตัดขาดกัน’

กลายเป็นประเด็นร้อนแรง กรณีการอภิปรายเมื่อคืนที่ผ่านมาของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปราย

โดยย้ำไม่มั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะบริหารประเทศได้ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา จากการลงพื้นที่พบปะประชาชน มีคนให้ข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ2 สมัยไม่สง่างาม เพราะรอบแรกปล้นเขามา คือมาจากการยึดอำนาจ และรอบสองโกงเข้ามา

ทั้งนี้การส่อทุจริตของคนในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ทั้งกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ครอบครองนาฬิการาคาแพง, การใช้งบประมาณเพื่อก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ในชั้นของการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)  ไม่ทราบผลการตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นองค์กรที่ฟอกขาวให้กับรัฐบาลเท่านั้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายไปประมาณ 15 นาที พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ส.ว. ประท้วงขอให้ควบคุมการประชุมและให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยุติการอภิปรายซ้ำซาก และขอให้เข้าประเด็นการอภิปรายนโยบายรัฐบาล

“ผมไม่อยากเชื่อว่าพี่เสรีพิศุทธ์จะรับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากมีวุฒิภาะวแบบนี้ ผมรู้จักกับพี่เสรีพิศุทธ์ที่จะว่าคนอื่นขอให้รู้ตัวเองด้วยว่ามีดีแค่ไหน เหรียญรามาที่ได้มาเขียนขึ้นเองหรือไม่ ผมทราบข้อมูลดี อย่าอุปโลกน์ตัวเอง ผมมองว่าหากทะเลากันแบบนี้ประเทศจะไม่เจริญ ซึ่งผมสนับสนุนให้ชายไทยต้องเกณฑ์ทหารทุกคน เพื่อให้มีความเป็นเพื่อนเป็นพี่ และไม่ทะเลาะกัน ซึ่งหากทะเลาะกันแบบนี้ ผมเห็นด้วยที่ปฏิวัติไป20 ปี” พล.อ.ธวัชชัย อภิปราย

หลังจาก พล.อ.ธวัชชัย อภิปรายยุติมีเสียงโห่ในที่ประชุม และมีส.ส.พรรคฝ่ายค้านประท้วงและไม่เห็นด้วยกับคำพูดของพล.อ.ธวัชชัย โดยนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ประท้วงว่าการพูดให้ปฏิวัติไป 20 ปี จนพล.อ.ธวัชชัยลุกขึ้นและขอถอนคำพูดที่ระบุว่าให้ปฏิวัติต่อไป20 ปี เพราะพูดด้วยอารมณ์ทำให้การอภิปรายดำเนินต่อไป แต่ไม่ราบรื่น เนื่องจากมีผู้ประท้วงต่อคำอภิปรายของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่พาดพิงถึงบุคคลภายนอก

ทั้งนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภาฐานะประธานที่ประชุม ขอให้ยุติพาดพิงบุคคลหรือองค์กรภายนอก ทั้งนี้การตรวจสอบมีกลไกและกระบวนการของรัฐสภาและขอให้อภิปรายภายใต้กรอบของนโยบายรัฐบาล

ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ด้วยต่อกรณีที่ระบุว่าการเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์รอบสอง มาจากการโกง และขอให้ถอนคำพูดท ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยืนยันว่ามีข้อเท็จจริงและไม่ขอถอนคำพูด ทำให้เกิดการโต้เถียงและผสมโรงโดยส.ส.พรรคเพื่อไทยอีกหลายคน ที่ขอให้ประธานที่ประชุมวินิจฉัยโดยยึดเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ถอนคำพูดที่ได้อภิปรายนานกว่า 15 นาที แม้นายพรเพชรจะวินิจฉัยในกรณีต่างๆ แต่ไม่มีส.ส.ที่ยกมือประท้วงเชื่อฟัง

ทั้งนี้มีส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้พักการประชุม 10 นาที เพื่อยุติการประท้วงและความวุ่นวาย นายพรเพชรวินิจฉัยให้ทุกฝ่ายยุติและขอให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปรายต่อไป แต่ไม่มีผู้ใดเชื่อฟังขณะที่ส.ส.ซึ่งนั่งฟังการประชุมได้ชี้มือไปยังบังลังก์ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ลุกชี้แจงด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

คำต่อคำ

พล.อ.ประยุทธ์ : ผมกับท่านนี่นะครับ แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พูดแทรกว่า อย่าชี้ผม

พล.อ.ประยุทธ์ : ไม่ได้ชี้ ผมรู้จักกับท่านมานานแล้วครับ แต่งงานก็วันเดียวกัน สมรสพระราชทานมาด้วยกันเป็นรุ่นพี่ผม

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ : เออ

พล.อ.ประยุทธ์ : แต่วันนี้ถือว่าไม่เป็นรุ่นพี่ผม

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ : โอเค

พล.อ.ประยุทธ์ : เพราะท่านไม่เคยให้เกียรติผมเลย ท่านบอกว่าชักปืนยิงผมตั้งแต่วันโน้น ถ้าท่านชักปืนยิงวันนั้นท่านก็ติดคุก เหรียญรามาท่านได้ ผมก็ได้ แต่ผมไม่เคยคุย ไม่เคยไปแอบอ้าง ผมมีผลงานมากมาย พูดจาหยาบคาย อวดอ้างอำนาจ ไปทบทวนของท่านเอง

ขณะที่ นายพรเพชรได้นำฆ้อนทุบกับบังลังก์และลุกยืนขึ้น ซึ่งตามข้อบังคับคือส.ส.ที่นั่งในห้องประชุมต้องนั่งลงและอยู่ในความสงบ แต่บรรยากาศในห้องประชุมพบว่าเป็นไปอย่างวุ่นวาย ทำให้นายพรเพชรกล่าวขึ้นทันทีว่า ขอพักการประชุม

เมื่อกลับมาประชุมเวลา 21.14 น. ประธาน (พรเพชร) วินิจฉัยให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอนคำพูด แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ยอมถอนตอบว่า "คนอย่างผมคำไหนคำนั้น" ประธานจึงให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกจากห้องประชุม ท่ามกลางเสียงปรบมือของส.ส.