ติดตามงบ BANK

ติดตามงบ BANK

งบ 2Q19 กลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่หดตัวลง YoY จึงมีโอกาสถูกแรงขาย Sell on fact ซึ่งเป็นตัวถ่วงต่อภาวะการลงทุนให้สลับอ่อนตัว

ลาดหุ้นวานนี้: SET Index ปรับตัวขึ้น +4.59 จุด (+0.27%) ปิดที่ระดับ 1,723 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท สวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่อ่อนตัวลงจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่ยังไม่คืบหน้า อย่างไรก็ตามได้เป็นแรงซื้อดักงบ 2Q19 โดยเฉพาะกลุ่ม FIN รวมถึงแรงซื้อ Technical rebound หนุนให้ดัชนีปิดบวก ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 1,352 ล้านบาท รวมถึง Net Long TFEX จำนวน 1,227 สัญญา แต่ในตลาดพันธบัตรเป็นฝั่งขายสุทธิ 905 ล้านบาท 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,720 – 1,735 จุด โดยภาวะตลาดได้แรงหนุนจากประธานเฟดสาขานิวยอร์กหนุนให้ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อรองรับเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทาง Fund Flow ต่างชาติให้ไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้น หลังเรือรบสหรัฐยิงทำลายโดรนของอิหร่านหนุนต่อราคาน้ำมันดิบให้ดีดตัวขึ้นเช้านี้และเป็นบวกต่อ sentiment กลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามงบ 2Q19 กลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่หดตัวลง YoY จึงมีโอกาสถูกแรงขาย Sell on fact ซึ่งเป็นตัวถ่วงต่อภาวะการลงทุนให้สลับอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q19 จะเติบโตขึ้น (PTTEP, EA, BGRIM, GPSC, CKP, CPF, GFPT, TFG, CPALL, MTC, THANI, VGI, PLANB, MINT, VNT, WORK, MAJOR, JMT, PRM)
  • กลุ่มขนส่งทางเรือ (PSL, TTA) อานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 2,130 จุด
  • หุ้นปันผลครึ่งปีเด่น (INTUCH, ADVANC, KKP, TCAP, LH, QH)

หุ้นแนะนำวันนี้THANI (ปิด 7 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 7.7 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q19 ยังโตต่อเนื่องจากยอดสินเชื่อที่ยังขยายตัว อีกทั้งยังมีโอกาสกลับรายการสำรองเข้ามาเป็นกำไรเพิ่มเติมเนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทตั้งสำรองไว้เกินกว่าที่เกณฑ์ของแบงก์ชาติกำหนดไว้ ขณะที่ปีหน้าคาดต้นทุนดอกเบี้ยลดลง เพราะมีหุ้นกู้ครบกำหนดรวมกว่า 14,000 ล้านบาท จึงได้ประโยชน์โดยตรงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง, TU (ปิด 19 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 21.4 บาท) คาดผลกำไร 2Q19 เติบโตโดดเด่นจากต้นทุนทูน่าที่ลดลงราว 38%yoy ส่งผลให้ GPM รวมของ TU น่าจะสูงขึ้นจาก 13.8% ใน 1Q19 ไปเป็น 16% ซึ่งผลบวกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเนื่องไปจนถึง 3Q19

KSS report วันนี้: IRPC (ปิด 4.90 ถือ /เป้า 4.80)

ประเด็นสำคัญวันนี้:

  • (+/-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน อย่างไรก็ตามเช้าวันนี้เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวหลังมีข่าวสหรัฐยิงโดรนของอิหร่านตกในบริเวณช่องแคบเฮอร์มุส: ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอีก 1.48$ (-2.6%) ปิดที่ระดับ 55.3 $/bbl นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน จากข่าวแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐในบริเวณอ่าวเม็กซิโกซึ่งหยุดผลิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการหลีกเลี่ยงผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนได้กลับมาทำการผลิตใกล้กับระดับปกติแล้ว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเช้าวันนี้(ฟิวเจอร์)เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตลาดกลับมากังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอีกครั้งหลังจากสหรัฐรายงานว่ากองทัพได้ยิงโดรนสำรวจของอิหร่านตกในบริเวณช่องแคบเฮอร์มุส
  • (+/-) กลุ่มธนาคาร : แจ้งงบ 2Q19 ไม่ได้แย่จนต้องกังวล BBL, SCB และ KBANK มีกำไรใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ส่วนวันนี้ติดตาม KTB, KKP และ TCAP: โดย BBL มีกำไรสุทธิ 9,347 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4%qoq และ 1.7%yoy ใกล้เคียงกับที่ Consensus คาดไว้ที่ 9,400 ล้านบาท, SCB มีกำไรสุทธิ 10,976 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%qoq แต่หดตัว 1.2%yoy ถือว่าดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้เล็กน้อย 3% และ สุดท้าย KBANK มีกำไรสุทธิ 9,929 ล้านบาท ลดลง1%qoq และ 9%yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3% (+/- 3% จาก Consensus ถือว่าใกล้เคียงกับคาดการณ์ของตลาด) ส่วนวันนี้ติดตามผลกำไรของ KTB, KKP และ TCAP เบื้องต้นคาดว่า KKP จะมีกำไรสุทธิออกมาโดดเด่นที่สุด
  • (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์หน้า รัฐบาลแถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ, 25 ก.ค. ECB meeting และ 26 ก.ค.สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 2/19: ปัจจัยในประเทศติดตามรัฐบาลแถลงนโยบาย คาดมีนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าออกมาก่อน อาทิ บัตรสวัสดิการ, การประกันราคาพืชผล และ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีก เรายังเลือก CPALL เป็น Top pick ของกลุ่ม ส่วนปัจจัยต่างประเทศ 25 ก.ค.ติดตามการประชุมของ ECB คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ตามเดิม และวันที่ 26 ก.ค. สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 2/19 Consensus คาดขยายตัว 1.9% หดตัวลงจาก ไตรมาส 1/19 ที่ขยายตัว 3.1% อาจหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ย