ประชุมผบ.4เหล่าทัพ เน้นสนองนโยบายรบ.ใหม่ ย้ำอุทิศตนทำงานหนักเพื่อปชช.

ประชุมผบ.4เหล่าทัพ เน้นสนองนโยบายรบ.ใหม่ ย้ำอุทิศตนทำงานหนักเพื่อปชช.

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 เน้นสนองนโยบายรัฐบาลใหม่ ย้ำอุทิศตนทำงานหนักเพื่อประชาชน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก , ผู้บัญชาการทหารเรือ , ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลและทบทวนการปฏิบัติงานของเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุมผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพจะดำเนินการร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสนองนโยบายชาติ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี โดยทุกเหล่าทัพ จะอุทิศตนทำงานอย่างหนักให้เป็นที่พึ่งของประชาชน

โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยังกล่าวด้วยว่า ทุกเหล่าทัพจะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยกองทัพอากาศได้จัดตั้งศูนย์ติดตามและสั่งการแก้ไขปัญหาสถานการณ์เพื่อกำกับดูแลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และจัดตั้งกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 ขึ้นควบคุมทางยุทธการกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า(กอร.มน.ภาค4) โดยใช้กำลังปฎิบัติการทางอากาศ อาทิ เครื่องบินโจมตี,เครื่องบินลาดตระเวณทางอากาศ ,การปฎิบัติการบินถ่ายทอดสัญญาณวิดิโอและการใช้กำลังปฎิบัติการทางภาคพื้นและใช้กำลังปฎิบัติการตามกลยุทธ์ปฎิบัติภารกิจด้านการข่าวอย่างเข้มข้น

นอกจากนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วมของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมการสื่อสารทหารได้หารือร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อบูรณาการและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม ประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงคือพัฒนาจากความต้องการทางยุทธการและตอบสนองต่อการปฎิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางที่แท้จริง รวมไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศบนพื้นฐานหลักการพึ่งพาตนเอง เพื่อสนับสนุนปฎิบัติการร่วมตามแนวคิดที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีตามกรอบแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 ด้วย

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้กล่าวขอบคุณ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน และขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมในครั้งนี้