อาจเข้าสู่ช่วงปรับฐานเพื่อรอผลเจรจาการค้า + Valuation เริ่มตึงตัว

อาจเข้าสู่ช่วงปรับฐานเพื่อรอผลเจรจาการค้า + Valuation เริ่มตึงตัว

ติดตามการประชุม G20 สัปดาห์นี้

ในวันที่ 28-29 มิ.ย. จะมี side-meeting การเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างทรัมป์และสีจิ้ผิง โดยตลาดอาจไม่ได้คาดหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้ แต่สิ่งที่ตลาดจะให้ความสนใจคือทรัมป์จะปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนที่เหลืออีก 3 แสนล้านเหรียญฯหรือไม่... ซึ่งหากทรัมป์ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นภาษีจีนต่ออีก 3 แสนล้านเหรียญฯ คาดจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ (Goldman Sachs ประเมินอาจส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลงสูงกว่า 4%) อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลการเจรจาจะไม่แย่หรืออาจดีกว่าที่ตลาดคาด (เก็บภาษีน้อยกว่า 3 แสนล้านเหรียญฯ) เนื่องจากทรัมป์น่าจะเลี่ยงการขึ้นภาษีในอัตราสูงเพื่อลดผลกระทบต่อกลุ่มผู้บริโภคของสหรัฐฯ

หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ได้แก่กลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศมาก หรือมีการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มสายการบิน (AAV, BA, THAI) และกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (BGRIM, EGCO, GULF) ทั้งนี้นักลงทุนอาจเลือกเก็งกำไรในกลุ่มที่ยังขึ้นน้อยเนื่องจากยังห่างจากช่วงประกาศผลประกอบการ (ส.ค.62) ขณะที่อาจต้องระวังการปรับขึ้นต่อในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ผลการดำเนินงานจะดีที่สุดในปีนี้ในช่วงไตรมาส 2 ก่อนชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล

กลุ่มพลังงานคาดได้ปัจจัยหนุนเชิงบวกระยะสั้นจากเหตุโรงกลั่นระเบิดในสหรัฐฯ เราเชื่อว่าด้วยค่าเงินเหรียญฯที่กลับทิศเป็นขาลง รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะยังคงช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานต่อ ขณะที่เหตุโรงกลั่นน้ำมันระเบิดในสหรัฐฯ คาดส่งผลดีต่อค่าการกลั่นรวมถึงหุ้นโรงกลั่นในระยะสั้น

SET’s valuation เริ่มตึงตัวหลังตลาดตอบรับปัจจัยบวกไปมาก. ดัชนี ณ ระดับปัจจุบันที่ประมาณ 1717 จุด คิดเป็น Forward PE ที่ 16.3x หรือ +1SD บนค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับในอดีต ขณะที่ส่วนต่าง Earning Yield Gap อยู่ที่ประมาณ 3.34% (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.50%) ส่งผลให้ valuation ของตลาดในช่วงสั้นเริ่มตึงตัวมากยิ่งขึ้น เราประเมิน SET Index อาจเข้าสู่ช่วงปรับฐานเพื่อรอผลการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เราแนะเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่มีเบนซิน (gasoline yield) ในสัดส่วนสูง เช่น SPRC รวมถึงแนะลงทุนใน TOP ที่แม้ว่างบไตรมาส 2/62 อาจชะลอจากการปิดซ่อมบำรุง 1 เดือน แต่คาดว่าจะได้ผลดีจากมาตรการลดซัลเฟอร์ในน้ำมัน (IMO) ที่จะบังคับใช้ต่อไป รวมถึง หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสพักตัวลงทดสอบแนวรับ 1710-1700 จุด จากการปรับฐานในช่วงสั้น แนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มโรงกลั่น รวมถึง หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล // หุ้นแนะนำวันนี้ TOP, GPSC เก็งกำไร AMATA* (เป้า 25 ตัดขาดทุน 23.5), AI* (เป้า 2.00 ตัดขาดทุน 1.50)

แนวรับ 1710-1700 / แนวต้าน : 1720-1730 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

LOXLEY (Not rated) – กองสลากตัดสินใจเรื่องหวยออนไลน์ ก่อนเสนอรัฐบาลใหม่ เป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไร LOXLEY ที่อาจได้ทำโครงการนี้ หรือได้รับเงินชดเชยจากการที่ภาครัฐชะลอโครงการหวย 2-3 ตัว

มาตรการ LTV ไม่กระทบบ้านหลังแรก แต่ผู้กู้ 2 หลังขึ้นไปลดลงตามคาด – ธปท.ชี้จำนวนลูกค้าที่ได้รับสินเชื่อปล่อยใหม่ในเดือน เม.ย.62 ซึ่งเป็นเดือนแรกของการบังคับใช้มาตรการ LTV ลดลงประมาณ 8% YoY ซึ่งเป็นการปรับลดจากกลุ่มที่ผ่อนส่งที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไป ขณะที่ ยอดสินเชื่อใหม่สำหรับผู้ที่กู้ซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกยังคงขยายตัวใกล้เคียงกับปีก่อน

ประเด็นติดตาม: 26 มิ.ย. – ประชุม กนง. / 27 มิ.ย. – US GDP 1Q19 / 1-2 ก.ค. – ประชุมโอเปก / 28-29 มิ.ย. – การประชุม G20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)