ระวังความผันผวนหลังดัชนีปรับขึ้นถึงเป้าหมายระยะสั้นที่ 1720-1730 จุด

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นกว่า 5% เนื่องจากรายงานข่าวอิหร่านยิงโดรนของกองทัพสหรัฐฯ ส่งผลให้หุ้นพลังงานในสหรัฐฯ ปรับขึ้นราว 1-5% และน่าจะเป็นปัจจยบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีบ้านเรา โดยเฉพาะ PTTGC และ TOP ที่ทางยูโอบี เคย์เฮียนฯ แนะนำให้ทยอยสะสมมาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ได้แก่กลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศมาก หรือมีการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มสายการบิน (AAV, BA, THAI) และกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (BGRIM, EGCO, GULF) ทั้งนี้นักลงทุนอาจเลือกเก็งกำไรในกลุ่มที่ยังขึ้นน้อยเนื่องจากยังห่างจากช่วงประกาศผลประกอบการ (ส.ค.62) ขณะที่อาจต้องระวังการปรับขึ้นต่อในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ผลการดำเนินงานจะดีที่สุดในปีนี้ในช่วงไตรมาส 2 ก่อนชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล

ตลท.เปิดซื้อขายหุ้นที่ถูกสั่งพัก – เป็นการชั่วคราวระหว่าง 1-31 ก.ค. ได้แก่ A5-BLISS-BUI-CHUO-EARTH-GSTEL-IFEC-KC-KTECH-NBC-NMG-POLAR-PRO-STHAI-TSF-WR / ขณะที่เปิดให้ซื้อขายหุ้นที่จะถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 1-9 ก.ค. ได้แก่ IEC, LVT และ YNP อย่างไรก็ตามการซื้อขายหุ้นดังกล่าวต้องวางเงินทั้งจำนวน (บัญชี Cash balance) และนักลงทุนควรระวังหรือปรับสถานะการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่จะถูกเพิกถอนจากตลาด (IEC, LVT, YNP) เนื่องจากจะสิ้นสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียนหลัง 9 ก.ค.

ระวังความผันผวนบริเวณ 1720-1730 จุด หลังดัชนีปรับขึ้นใกล้เป้าระยะสั้น การเก็งกำไรแนะนำเลือกหุ้นพื้นฐานดีที่ราคายังขึ้นน้อยกว่าตลาด (อาทิ BJC, TRUE, GPSC, KKP, TOP, PTTGC, CPN) รวมถึงหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาล อาทิ กลุ่มบริโภคภายในประเทศ, นิคมฯ นอกจากนี้ เรายังแนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่องจากวันศุกร์ (PTTEP, PTTGC) ตามราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากประเด็นความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ  / กลุ่มปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (60.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15)

ภาพรวมกลยุทธ์: ระวังการแกว่งหรือแรงทำกำไรหลังปรับขึ้นใกล้เป้าหมาย 1720-1730 จุด เน้นเก็งกำไรให้หุ้นที่ราคายังขึ้นน้อย และแบ่งทำกำไรในหุ้นขึ้นแรง // หุ้นแนะนำวันนี้ TOP, GPSC เก็งกำไร PTTGC* (เป้า 67 ตัดขาดทุน 59), AAV* (เป้า 4.34 ตัดขาดทุน 4.06)

แนวรับ 1693-1705 / แนวต้าน : 1720-1730 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

ประเด็นการลงทุน

BOE คงดอกเบี้ย พร้อมปรับลดคาดการณ์ GDP – ธนาคารอังกฤษ (BOE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.75% พร้อมปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 2/62 ลงสู่ระดับ 0% จาก 0.2% จากความเสี่ยง No-Deal Brexit

เข้าสู่รอบชิงคัดตัวนายกฯคนใหม่ของอังกฤษ –เหลือผู้ท้าชิง 2 ท่าน คือ นายบอริส จอห์นสัน (160 คะแนน) และ นายเจรีมี ฮันท์ (77 คะแนน) คาดรู้ผลผู้ชนะวันที่ 22 ก.ค.นี้

ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงในเดือน พ.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน พ.ค. อยู่ที่ 47.4 ปรับตัวลงจากเดือน เม.ย. ที่ระดับ 47.8 จากปัจจัยลบเกี่ยวกับภาะวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความกังวลต่อการจัดตั้งรัฐบาล และประเด็นสงครามการค้า

VGI – เข้าร่วมทุนกับ สห ลอว์สัน (SL) และสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI) โดยถือหุ้น 30%, 60% และ 10% ตามลำดับ

ประเด็นติดตาม: 21 มิ.ย. – U.S. manufacturing PMI เดือน มิ.ย. / 1-2 ก.ค. – ประชุมโอเปก / 28-29 มิ.ย. – การประชุม G20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)