ฝากขังอีก 3 แก๊งวินจยย.ซ่า คาดเอาผิดผู้ร่วมก่อเหตุอีก 90 คน

จากกรณีกลุ่มวินจยย. บริเวณปากซอยสุขุมวิท 103 ยกพวกทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงกันจนทำให้นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่สน.บางนา - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ได้เตรียมควบคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ฝากขังศาลจังหวัดพระโขนงในวันนี้ ขณะที่พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จะเดินทางมาประชุมเกี่ยวกับคดีนี้ที่ สน.บางนา ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อคัดแยกบุคคลในคลิปภาพเหตุการณ์ และเปรียบเทียบวินรถจักรยานยนต์ที่เรียกมาทำประวัติ เบื้องต้นจะดำเนินการพิจารณาเอาผิด ผู้ที่ร่วมก่อเหตุประมาณ 90 คน

สำหรับผู้ต้องหาที่เตรียมจะถูกนำตัวไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนงในวันนี้มีจำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายปิยะ พวงเกษร , นายมานพ มิ่งมงคล และนายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ ซึ่งถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุม และมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ โดยพนักงานสอบสวนจะใช้เหตุผลเช่นเดียวกับผู้ต้องหาล็อตแรก เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัว

ส่วนวินรถจักรยานยนต์สังกัดกลุ่มวินฯ หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 8 คน ที่เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ปากคำถึงข้อเท็จจริงร่วมในเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ ย่านอุดมสุข พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และลงบันทึกถ้อยคำไว้ก่อน โดยยังไม่นำตัวไปส่งฟ้องศาลวันนี้ เนื่องจากยังต้องรอพิสูจน์เปรียบเทียบภาพคลิปเหตุการณ์ก่อนว่า ได้กระทำความผิดอื่นๆอีกหรือไม่

ส่วนวินรถจักรยานยนต์ที่เรียกมาให้ปากคำและทำบันทึกประวัติเมื่อวานนี้ เป็นการจัดเตรียมข้อมูล เพื่อรอนำไปเปรียบเทียบกับภาพในคลิปเหตุการณ์ เพื่อดูว่ามีใครร่วมก่อเหตุอย่างไร เข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้าง หากใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกกันไว้เป็นพยานต่อไป ซึ่งขณะนี้มีการเรียกทำประวัติจากกลุ่มวินฯ ทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้ว 50-60 คน ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้จะนำเข้าที่ประชุม เพื่อรายงานผลความคืบหน้าต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้ง

สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เปิดเผยว่า ตัวการสำคัญอยู่ในกลุ่มที่ถูกออกหมายจับทั้ง 7 คน ส่วนผู้ที่คาดว่ามีส่วนร่วมในเหตุการณ์มีตัวเลขค่อนข้างชัดเจนอยู่ที่ 90 คน แบ่งเป็นฝ่ายเตรียมการลงมือ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา เนื่องจากพบหลักฐานข้อมูลการสั่งซื้ออาวุธ เช่น กระบอง ที่สั่งซื้อออนไลน์นำเข้าจากจีน และการเตรียมอาวุธปืนไว้ก่อเหตุ ส่วนฝ่ายตั้งรับอยู่ในข่ายความผิดฐานก่อเหตุทะเลาะวิวาท ส่วนหลังจากนี้จะมีใครเป็นตัวการสำคัญที่ต้องถูกออกหมายจับอีกหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่พบหลังจากนี้