ฟื้นตัว แม้การเมืองดูขาดเสถียรภาพ แต่อย่างน้อยมีสัญญาณของความชัดเจน

ฟื้นตัว แม้การเมืองดูขาดเสถียรภาพ แต่อย่างน้อยมีสัญญาณของความชัดเจน

สงครามการค้า อาจมีความขัดแย้งย่อยก่อนชัดเจนขึ้นหลัง G20

แม้จะมีกระแสการตรวจสอบและแบนธุรกิจของจีนเพิ่มเติม และเรามองสงครามการค้าน่าจะยืดเยื้อ แต่การที่ประธานาธิปดีทรัมป์ยืนยันว่าจะพบกับประธานาธิปดี สีจิ้นปิง ในการประชุม G20 ในวันที่ 28-29 มิ.ย.ที่ญี่ปุ่น ทำให้มีโอกาสคลี่คลายข้อขัดแย้ง ตลอดจนอาจมีข้อตกลงในลักษณะ “พักรบ” เช่นการชะลอการขึ้นภาษี เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในการประชุม G20 ในช่วงธ.ค.61 ที่ผ่านมา

การเมืองขาดเสถียรภาพแต่ก็มีสัญญาณของความชัดเจน การประชุมสภาผู้แทนเพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภา มีผลแพ้ชนะค่อนข้างก้ำกึ่ง ขณะที่การชนะเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่ ชัยชนะเป็นของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งจะทำให้ทำให้จำนวนส.ส.ฝั่งเพื่อไทย-อนาคตใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 1-2 ที่นั่ง ทำให้การเมืองเสี่ยงในมุมของเสถียรภาพ อย่างไรก็ตามสัญญาณของความชัดเจนในการตั้งรัฐบาล และตำแหน่งรมต.ต่างๆเริ่มปรากฎ จะเป็นปัจจัยบวกในการเร่งผลักกันโครงการและงบประมาณ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุน คาดจะเห็นรายชื่อพรรคร่วมรัฐบาลในเร็วๆนี้ ส่วนกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี จะเกิดหลังโปรดเกล้า ประธานสภาผู้แทนแล้ว

ยังคงมองกลุ่มปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนอยู่ในระดับน่าเสี่ยง แม้ปัญหาสงครามการค้าทำให้หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่อิงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจปรับลดลงแรง อย่างไรก็ตาม เรายังคงยืนยันความน่าสนใจของหุ้นในกลุ่มนี้ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังหุ้นหลายตัวในกลุ่มกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (61.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15) ดังนั้นถึงแม้จะมีความกังวลต่อผลประกอบการในระยะสั้น แต่ในเชิงมูลค่า เราประเมินหุ้นในกลุ่มเริ่มเข้าสู่จุดเสี่ยงซื้อที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ TOP และ PTTGC

เก็งกำไรหุ้นเข้า MSCI/หุ้นการเมือง/หุ้นปลอดภัย ทยอยสะสมโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ WHART, FTREIT, EGATIF, EASTW, GUNKUL*, SSP*, AQUA* / หุ้นเข้า MSC Global (+) INTUCH, RATCH, DTAC / MSCI Small cap (+) AEONTS, AAV, BLA, EASTW, PSH, TASCO

ภาพรวมกลยุทธ์: ฟื้นตัว โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1605-1630 จุด การเก็งกำไรยังเน้นกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, EASTW* เก็งกำไร STEC* (เป้า 26.50 ตัดขาดทุน 24.20), เก็งกำไร GPSC* (เป้า 58 ตัดขาดทุน 54)

แนวรับ 1605, 1610 / แนวต้าน : 1617, 1625 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

ผลการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป – พรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนการแยกตัวออกจากยุโรปในหลายประเทศ มีคะแนนนำในการเลือกสมาชิภสภายุโรป โดยจะประชุมแต่งตั้งผู้นำยุโรปคนใหม่ 28 พ.ค.

GPSC – สามารถซื้อหุ้น GLOW จากการทำเทนเดอร์ได้ 95.25% สามารถเดินหน้าแผนเพิกถอน GLOW ออกจากตลาด เรามองการเข้าซื้อ GLOW เป็นผลดีต่อการดำเนินงานระยะยาว

MINT – ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อกระทรวงคมนาคม หลังถูกตัดสิทธิ์จากการเข้าประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะแถลงข่าว 10.00 น. วันนี้

 

ประเด็นติดตาม: 28 พ.ค. –สหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, 30 พ.ค. – สหรัฐฯ รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/62, 31 พ.ค. – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)