ฝากขัง! หนุ่มจี้ชิงทรัพย์ ธ.ทหารไทย หลบหนีส่งท้ายปี 61

ฝากขัง! หนุ่มจี้ชิงทรัพย์ ธ.ทหารไทย หลบหนีส่งท้ายปี 61

ตร.คลองตัน คุมตัวฝากขังครั้งแรก หนุ่มจี้ชิงทรัพย์ ธ.ทหารไทย หลังก่อเหตุหลบหนีไปอยู่พื้นที่ จ.สมุทรปราการ ขณะที่ ตร.ค้านประกันกลัวหนีอีก

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 62 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้ควบคุมตัว "นายศราวุฒิ สะทิ" อายุ 39 ปี ชาวสมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ 1/2562 ลงวันที่ 2 ม.ค.62 คดีชิงทรัพย์เคาน์เตอร์ธนาคารทหารไทยฯ สาขาพัฒนาการ ช่วงส่งท้ายปี มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-15 ม.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบคำให้การประจักษ์พยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจสถานที่เกิดเหตุ จากกองพิสูจน์หลักฐาน และผลตรวจบายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ประกอบกับการรวบรวมพยานหลักฐานอื่น โดยพนักงานสอบสวน ก็ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี

ขณะที่คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์ผู้ต้องหาสรุปว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.61 ช่วงเวลา 12.59 น. มีคนร้ายเป็นชาย สูง 170-180 ซม. สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีกรมท่า กางเกงยีนส์สีเข้ม สวมหมวกนิรภัย (หมวกกันน็อก) เต็มใบแบบปิดคาง ได้ข่มขู่พนักงานธนาคาร ประจำเคาน์เตอร์ธนาคารทหารไทย ฯ สาขาพัฒนาการ ว่ามีระเบิดและปืนเพื่อให้พนักงานกลัว แล้วยื่นถุงให้นำเงินใส่ลงไป รวมจำนวนทั้งสิ้น 105,200 บาท จากนั้นคนร้ายขี่ รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 110 ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนจากภาพกล้องวงจรปิด จนทราบเส้นทางที่มาก่อเหตุทั้งช่วงก่อน-หลังชิงทรัพย์ รวมทั้งรูปพรรณตำหนิคนร้าย และ รถ จยย.ที่ใช้ จนทราบว่าคนร้ายมาจาก ถ.แพรกษา จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กระทั่งทราบข้อมูลคนร้าย คือนายศราวุฒิ และสืบทราบว่าผู้ต้องหาอาศัยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนี ได้ที่บ้านพักดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาฐานชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 (1)(2) , 340 ตรี ชั้นสอบสวน "นายศราวุฒิ" ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วกรณีตามคำร้องเป็นความผิดอาญาร้ายแรง จึงอนุญาตให้ฝากขังได้