อาวุธลับ 'เอ็ม วิชั่น' ปั้น 3 ธุรกิจเกาะเทรนด์โลก

อาวุธลับ 'เอ็ม วิชั่น' ปั้น 3 ธุรกิจเกาะเทรนด์โลก

ไม่นานเกินรอคว้างานราชการ...!! หลังปลดล็อกเงินทุน เพิ่มขีดความสามารถจัดกิจกรรมใหญ่ขึ้น 'โอภาส เฉิดพันธุ์' หุ้นใหญ่ บมจ. เอ็มวิชั่น เรียกเรตติ้งแฟนคลับ แง้มแผนธุรกิจฉบับ 3 ปีข้างหน้า ขยับสู่ตลาดบลู โอเชียน

กำลังก้าวเข้าสู่ตลาด 'บลู โอเชียน' (Blue Ocean) ความโดดเด่นนี้อาจเป็นตัวผลักดันให้ หุ้น เอ็ม วิชั่น หรือ MVP ของ 'ตระกูลเฉิดพันธุ์' ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 18.85% ยังคงยืนเหนือราคาจอง 1.90 บาทต่อหุ้น ต่อเนื่อง แม้จะปรับตัวลดลงจากราคาเปิดซื้อขายวันแรก (7 ส.ค.2561) ที่ระดับ 3.26 บาท ปัจจุบันราคาซื้อขายเฉลี่ย 2.98 บาท 

ปัจจุบัน 'เอ็ม วิชั่น' แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มธุรกิจการจัดงาน (EventOrganizer) ได้แก่ การจัดงานแสดงสินค้า Thailand Mobile Expo , การจัดงานสัมมนาให้แก่บริษัทโทรศัพท์มือถือ , การจัดงานกีฬาและงานท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 2. กลุ่มธุรกิจงานโฆษณาและเอเจนซี่ (Media & Agency) และ 3. กลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) 

'โอภาส เฉิดพันธุ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็มวิชั่น หรือ MVP บอกกับ 'กรุงเทพธุรกิจ BizWeek' ว่า ตามแผนธุรกิจองค์กรแห่งนี้จะโฟกัสกลุ่มเป้าหมายกลุ่มธุรกิจการจัดงาน โดยเฉพาะใน 'งานราชการ' มากขึ้น ซึ่งบริษัทกำลังจะเข้าไปในตลาด 'บลู โอเชียน' (Blue Ocean) ในงานราชการที่ไม่มีคู่แข่งจากปัจจุบันบริษัทรับงานของเอกชน 100%  

โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังไม่สามารถรับงานราชการได้ เนื่องจากต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่ว่าหลังจากบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นทำให้มีเงินทุนมากขึ้น บ่งชี้ผ่านขีดความสามารถในการจัดงานได้ใหญ่ขึ้นจากเดิม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีขีดความสามารถจัดงานมือถือมูลค่า 40 ล้านบาท และงานกีฬา (วิ่ง) มูลค่า 10 ล้านบาท แต่เมื่อมีเงินทุนบริษัทจะสามารถจัดงานได้ใหญ่ขึ้นและจำนวนการจัดงานจะถี่ขึ้นด้วย    

'แต่ละงานที่เราจัดมาร์จินเฉลี่ยราว 40-50% ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าจัดงานอีเว้นท์ทั้งมือถือและงานกีฬาราว 6 งาน จากปกติปีละ 2-3 งาน แต่ว่าหลังจากมีเงินทุนขีดความสามารถในการจัดงานจะทำได้ถึง 10 งานต่อปี'  

โดยเฉพาะในด้าน 'การท่องเที่ยวเชิงกีฬา' ตามทิศทาง Megatrend ของโลก ที่คนหันมาสนใจกีฬากันมากขึ้น และมีอัตราการเติบโตค่อนข้างมาก ขณะที่การท่องเที่ยวประเทศไทยไม่สามารถจะขาดการท่องเที่ยวได้ และยังมีทิศทางการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน บริษัทมองเห็นเทรนด์การรักสุขภาพของทั่วโลกเพิ่มขึ้น จึงตัดสินเข้ามาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาเชิงการท่องเที่ยว สอดคล้องกับปัจจุบันเมืองไทย 'ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ' (จีดีพี) มาจากรายได้การท่องเที่ยวสัดส่วน 25% ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐบาลไม่เคยลดวงเงินสนับสนุนเพื่อโปรโมทด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นก็ตาม 

โดยปัจจุบันแต่ละปีภาครัฐจะมีงบประมาณสูงถึง 80,000 ล้านบาท ทว่าปัจจุบันพื้นที่ในเมืองไทยใช่ในเรื่องการท่องเที่ยวเพียง 20% ซึ่งเหลือพื้นที่อีกว่า 80% ที่ยังไม่ได้ดึงศักยภาพออกมา เนื่องจากความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ Unseen Thailand ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง เพราะที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกยังมีไม่มากพอ

ดังนั้น บริษัทจึงมองเห็นโอกาสจากข้อด้อยดังกล่าว จึงนำรถบ้านมาเป็นรถคาราวานสำหรับรองรับการท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงกีฬา รวมถึงการจัดอีเว้นท์ต่างๆ ทั่วประเทศทั้งในพื้นที่ของภาครัฐและเอกชน หลังจากเริ่มทดลองนำมาให้บริการมาแล้ว 2 ปี รวมถึงการวิ่งการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยโรงพยาบาลทั่วประเทศของนักร้องชื่อดัง 'ตูน บอดี้สแลม'

'เบื้องต้นบริษัทมีแผนเพิ่มรถบ้านเคลื่อนที่ (mobile car) เพื่อรองรับผู้เข้าพักให้ได้ราว 3,000-5,000 คน จากปัจจุบันมีรถบ้านเคลื่อนที่ทั้งหมดราว 50 คัน และตั้งเป้าเพิ่มรถบ้านเป็น 70 คันในปีนี้'  

อย่างไรก็ตาม มีความเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะถูกชักชวนให้ออกไปวิ่งบ้าง ซึ่งมองว่ายังเป็นโอกาสอีกมหาศาล เพราะว่าในตลาดยังไม่เห็นบริษัทใดที่จะเข้ามาทำธุรกิจลักษณะแบบนี้ในการหารายได้ สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกในปัจจุบันที่กีฬากำลังมาแรงและมีการเติบโตค่อนข้างมาก   

'เราต้องการเคลื่อนย้ายคนจำนวน 2,000-4,000 คน ไปจัดกิจกรรมกีฬาเชิงท่องเที่ยวในพื้นที่ของเมืองไทยอีกกว่า 80% ที่เหลือ'

สำหรับ กลุ่มเป้าหมายลูกค้าจะเป็นต่างชาติและคนไทยระดับบน ซึ่งในปีหน้ามีแผนดึงชาวต่างชาติเข้ามาร่วมงานอีเว้นท์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬาและไทยมากขึ้น โดยเฉพาะชาวยุโรปและสแกนดิเนเวีย ซึ่งภูมิอากาศในกลุ่มประเทศดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการเล่นกีฬาหลายประเภทด้วย 

'ผู้ร่วมก่อตั้ง' แจกแจงแผนธุรกิจต่อว่า สำหรับ 'การจัดงานเกี่ยวกับมือถือ' ในปี 2560 ตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทนมีการขยายตัวในอัตรา 2.71% เมื่อเทียบกับปี 2559 ในอนาคตทุกๆ อย่างจะถูกรวมเข้ามาอยู่ในกลุ่มของโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และส่วนอื่นๆ อีก ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากงาน Mobile Expo มาเป็น 'Mobile Related Expo'  

โดยบริษัทมีแผนธุรกิจรองรับเทรนด์ด้านเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งบริษัทวางตัวเองเป็นศูนย์กลางของวงการโทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกว่า Mobile Related โดยรวมทุกอย่างที่เป็นการสื่อสารไร้สาย Internet of Things (IoT) หรืออุปกรณ์ทุกอย่างที่สามารถไส่ซิมการ์ดลงไปได้ อาทิ ทีวี ไมโครเวฟ รถจักยานยนต์ไฟฟ้า และทุกๆ อย่างที่มีการเชื่อมต่อกันแบบไร้สาย 

ในช่วงต้นปีที่ผ่านบริษัทได้จัดงาน Thailand Mobile Expo และภายในงานยังได้มีการสอดแทรกงาน EV EXPO เข้าไป เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าต้องไส่ซิมการ์ดเพื่อเชื่อต่อโทรศัพท์มือถือ และอนาคตยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากที่ต้องใช้ซิมการ์ดและเชื่อมต่อในระบบไร้สายมากขึ้น บริษัทจึงมีแนวคิดรวมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนี้เป็นกลุ่ม Mobile Relate โดยในช่วงปลายปีงาน Thailand Mobile Expo จะมีโซนใหม่เกิดขึ้น คือ Consumer Electric หรือโซนเครื่องใช้ไฟฟ้า

ด้วยการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นนี้จะมีการเก็บค่าบริการรายเดือน จะส่งผลให้กลับมาในรูปแบบการขายมือถือที่มาพร้อมแพ็คเกจ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นผูกแพ็คเกจเพื่อซื้อสินค้าที่มีการเชื่อมต่อ ซึ่งทุกๆอย่างนี้ก็จะเข้ามาอยู่ในกลุ่มมือถือของเราเช่นกัน จะส่งผลให้ทุกๆผลิตภัณฑ์เข้ามาอยู่ในกลุ่ม Mobile Related Expo

ส่วนเทคโนโลยีตัวโทรศัพท์มือถือยังมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากผ่าน GEN 3 หรือที่เรียกว่า Feature Phone ทุกคนได้เปลี่ยนมาอยู่ที่ GEN 4 หรือ Touch Screen หรือ Smartphone ในยุคปัจจุบันงาน Mobile Expo ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังจาก GEN 5 กำลังจะมา ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการ โดยจะได้เห็นโทรศัพท์ที่สามารถงอและพับได้ รวมทั้งโทรศัพท์ที่หน้าจอมีความคงทนมากขึ้น ตกไม่แตก คาดว่าทุกคนจะเปลี่ยนเข้าสู่ GEN 5 ทั้งหมด

ขณะที่ 'ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์' (e-Commerce) ตลาดอีคอมเมิร์ซในเมืองไทยในช่วง 3ปีที่ผ่านมา (2557-2559) ตลาดมีการขยายตัวสูงในอัตรา 11.14% เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของโลกไปสู่ยุคดิจิทัล โดยปัจจุบันบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ซื้อในร้านค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.s-estore.com ของบริษัท 

โดยจำหน่ายสินค้าภายใต้ในแบรนด์ 'Samsung' สินค้าที่จำหน่าย ได้แก่ สินค้าโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต (Tablet) อุปกรณ์สำหรับโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าวภายใต้แบรนด์ Samsung ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการจาก Samsung ในประเทศไทยนอกจากนี้ ยังมองตลาดในต่างประเทศ

ท้ายสุด 'โอภาส' บอกว่า ที่ผ่านมาเราทำให้เห็นแล้วว่าเรามีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Megatrend ของโลกทั้งในกลุ่ม Mobile, Sport และ Tourism พึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น นอกจากนี้งานใหม่ของเราจะดำเนินไปตามการท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมีการขยายตัวในทุกๆ ปี

ความ 'ชื่นชอบ' สู่' เจ้าของธุรกิจ'    

'โอภาส เฉิดพันธุ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็มวิชั่น หรือ MVP เล่าจุดเริ่มต้นธุรกิจให้ฟังว่า ตนเองเรียนจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเลือกเรียนวิศวกรรมไฟฟ้า เพราะว่าส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีเกี่ยวกับมือถือและวิศวกรรมไฟฟ้าก็มีความเกี่ยวข้องด้วย แต่ว่าสมัย 10 กว่าปีก่อน โทรศัพท์มือถือยังไม่ไดรับความนิยมเหมือนเช่นวันนี้  

แต่ความชอบเทคโนโลยีมือถือระหว่างเรียนจึงร่วมหุ้นกับเพื่อน 4 คน ทำ 'ธุรกิจผลิตหนังสือแมกกาซีน' โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ก่อนจะมองเห็นว่าในเมืองไทยมีแต่จัดงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงเกิดความคิดอยากจัดงานเกี่ยวกับมือถือบ้าง...!  

เขา บอกว่า จึงเป็นที่มาของการจัดงาน 'Thailand Mobile EXPO' ครั้งที่ 1 และในเดือน ก.ย. 2561 ถือเป็นครั้งที่ 31 แล้ว ย้อนไปเมื่อการจัดงานครั้งแรกตอนนั้นผู้ประกอบเกี่ยวกับมือถือในแต่ละแบรนด์สินค้าไม่ค่อยมั่นใจ เพราะว่าสมัยอดีตมือถือจะเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ในงานคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ปรากฎว่าการจัดงานไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โปรกลับประสบความสำเร็จอย่างมาก สะท้อนภาพจากยอดขายมือถือทะล่มทลาย