‘เต่าเหยียบโลก’ รุกตลาดระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ

‘เต่าเหยียบโลก’ รุกตลาดระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ

“เต่าเหยียบโลก” แจ้งเกิดตัวเองในตลาดแป้งฝุ่นระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ ตลาดใหม่ในสังเวียน blue ocean

เป็นเจ้าแรกที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ ไม่ต้องแข่งขันกับใคร แค่แข่งกับตัวเองให้ตั้งหลักได้ และได้ไปต่ออย่างคงเส้นคงวา ก็ถือเป็นบุญกุศลแห่งความพากเพียรแล้ว

กว่าจะมาเป็น “เต่าเหยียบโลก” ภายใต้รูปลักษณ์สดใส บนชั้นวางร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่มีร่วมหมื่นสาขาได้ ทุกระยะของการเดินทางไกล ล้วนต้องเริ่มจากก้าวแรก และสำหรับสี่เท้าของเต่าที่ต้องรุกคืบไปทีละนิด กว่าจะมีโลกให้เต่าเหยียบได้อย่างทุกวันนี้ ก็เลือดตาแทบกระเด็น ไม่ต่างจากแบรนด์เอสเอ็มอีรายอื่นๆ

สมชาย จันทิพย์วงษ์ ประธาน บริษัท ไทย เฮิร์บ เอนเตอร์ไพรซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ “เต่าเหยียบโลก” เล่าว่า แบรนด์นี้เพิ่งเริ่มติดตลาดตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา จากกระแสปากต่อปากในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ ที่พากันกล่าวขวัญถึงสินค้าโนเนมชื่อยี่ห้อชวนอมยิ้ม แต่คุณภาพหลังการใช้ดีเกินคาด ในสนนราคาที่ซื้อหาได้

ปัญหาของเต่าเหยียบโลกในเวลานั้น คือ หาซื้อยาก  แต่ด้วยความที่เป็นสินค้าแจ้งเกิดจากห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ในเวปพันทิป ความดังเพียงชั่วข้ามคืน ทำให้เขาและลูกๆ รีบคว้าโอกาส เร่งเพิ่มช่องทางจำหน่าย ด้วยการแบ่งกันตะเวนขับรถไปส่งสินค้าเกือบทุกภูมิภาคกลายเป็นสินค้าเกิดในภูธร ดังในออนไลน์ และแบรนด์เป็นที่คุ้นเคยในเซเว่นอีเลฟเว่น

“เดิมเราตั้งชื่อแป้งว่า จับเต่า ภาษาอังกฤษคือ JT ผมเติบโตมาจากร้านขายยา ชื่อที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยคือ ตรากระต่ายบิน ตราเสือดาว ตราพญานาค แป้งของเราสำหรับแก้ปัญหากลิ่นเต่า ก็เลยเป็นที่มา ภายหลังเปลี่ยนเป็น เต่าเหยียบโลก เพราะเรารู้ว่าสินค้าของเราดี เราก็เลยอยากจะกระจายไปขายทั่วโลก” สมชายกล่าว

นพวิทย์ จันทิพย์วงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทย เฮิร์บ เอนเตอร์ไพรซ์ จำกัด ซึ่งเป็นลูกชายคนโต กล่าวเสริมว่า ระหว่างนี้บริษัทสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายอย่างมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสวทช. เพื่อพัฒนาสูตรใหม่ ตลอดจนเข้าร่วมโครงการกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมขอเครื่องหมายฮาลาลเพื่อขยายตลาดไปยังตะวันออกกลาง

“ทิศทางการเติบโตของเต่าเหยียบโลก เราจะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น สร้างความแตกต่างเฉพาะตัวจากตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย คู่แข่งของเรามีตั้งแต่แบรนด์เกิดใหม่ที่พยายามทำสินค้าใกล้เคียงกัน รวมไปถึงแบรนด์ดังๆ ที่เริ่มสนใจตลาดระงับกลิ่นกายแบบแป้ง เราพยายามสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บ้านๆ ที่เข้าถึงง่าย ทำตลาดผ่านเฟซบุก เน้นภาพลักษณ์ที่ดูกันเอง สนุกสนาน เป็นสินค้าจากธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีสารเคมีปน มีคุณภาพเชื่อถือได้ ใช้แล้วเห็นผล”

นพวิทย์บอกว่า เป้าหมายของเต่าเหยียบโลกคือ ขายความเป็นสินค้าบ้านๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ และปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้คนกล้าใช้ กล้าหยิบฉวยมากขึ้นการขายผ่านเซเว่นแคตตาล็อก ตั้งแต่ปี 2557เป็นต้นมาทำให้แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก และเมื่อได้รับการสนับสนุนจากเซเว่นอีเลฟเว่นให้วางขายในร้าน ทำให้ได้รับการยอมรับในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น

วิศรุต จันทิพย์วงษ์ผู้จัดการฝ่ายวางแผนและพัฒนากลยุทธ์ บริษัท ไทย เฮิร์บ เอนเตอร์ไพรซ์ จำกัด ลูกชายคนเล็ก กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเดินหน้าขยายไลน์สินค้าจากแป้งไปหากลุ่มโรลออน ครีม และสเปรย์ เพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และสร้างความหลากหลายให้ผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงศึกษาตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเท้า พร้อมกับวางเป้าหมายเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติภายใน 3 ปีจากนี่

“เรามีโอกาสเติบโตท่ามกลางสภาวะการแข่งขันของตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย จากการมีจุดยืนที่ชัดเจน ใช้แล้วเห็นผลภายในหนึ่งวัน การเพิ่มกลิ่น เพิ่มความหลากหลาย เพิ่มไลน์สินค้า โอกาสทางการตลาดก็จะมีมากขึ้น เราอยู่ในยุคสมัยที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพ ใช้ของที่มาจากธรรมชาติ ทำอย่างไรให้สินค้าที่ดูบ้านๆ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและสะดวกจริงๆ”

เต่าเหยียบโลกมีอัตราการเติบโตปีละ 25% ในปี 2558 ที่ผ่านมาอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 35% จากการเร่งกระจายสินค้าให้ครอบคลุม ลูกค้าสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตหลักแสนชิ้นต่อเดือน ในระยะใกล้นี้บริษัทจะขยายตลาดไปต่างประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางและประเทศเพื่อนบ้าน จากการมองว่าเต่าเหยียบโลกเป็นสินค้าที่สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหากลิ่นกายให้กับผู้คนทั้งโลกได้จริงๆ และเป็นสินค้าที่มาจากธรรมชาติแท้ๆ ไม่มีสารเคมีเจือปน

“กลิ่นใต้วงแขนไม่มีโอกาสหาย ต้องดูแลกันชั่วชีวิต ไม่เหมือนปัญหาสิวฝ้า ยังพอรักษาให้หายได้” สมชายกล่าวย้ำ

----------------------

ภาพจากซ้ายไปขวา : แคทริยา จันทิพย์วงษ์, วิศรุต จันทิพย์วงษ์, สมชาย จันทิพย์วงษ์ และ นพวิทย์ จันทิพย์วงษ์