ส่งนักรบนาวิกฯ609นาย สับเปลี่ยนรักษาความสงบพื้นที่ภาคใต้

ส่งนักรบนาวิกฯ609นาย สับเปลี่ยนรักษาความสงบพื้นที่ภาคใต้

"นาวิกโยธิน" ส่งนักรบ 609 นาย สับเปลี่ยนรักษาความสงบพื้นที่ภาคใต้

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558 ที่ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผู้บัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพลไปปฏิบัติราชการหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธิน 8 หน่วย 609 นาย และยุทโธปกรณ์ โดยมีผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง ข้าราชการ ร่วมส่งกำลังพลอย่างสมเกียรติ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมมอบวัตถุมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดจากศาสตราวุธ และภัยอันตรายทั้งปวงในระหว่างปฏิบัติหน้าที่


พล.ร.ต.กล้าหาญ เพ็ชรมีศร ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตามอนุมัติกองทัพเรือ และคำสั่งหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (เฉพาะ) ลับ ที่ 90/2558 ลงวันที่ 17 ส.ค.58 เรื่อง การผลัดเปลี่ยนกำลังหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2559 ได้อนุมัติให้กองพลนาวิกโยธิน เป็นหน่วยรับผิดชอบในการผลัดเปลี่ยนกำลัง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับการเปลี่ยนกำลังหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ภาคใต้ในวงรอบนี้ ได้แบ่งออกเป็นกำลังส่วนล่วงหน้า และกำลังส่วนใหญ่ โดยกำลังพลส่วนล่วงหน้า 362 นาย ได้ทำการเคลื่อนย้ายทางรถยนต์ เมื่อวันพุธที่ 16 ก.ย.58 และเดินทางถึงฐานปฏิบัติการ และผลัดเปลี่ยนกำลังเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกำลังพลพ้นหน้าที่ส่วนล่วงหน้า ได้เดินทางกลับถึงที่ตั้งปกติเรียบร้อยแล้ว


สำหรับกำลังพลที่อยู่ ณ ที่นี้ เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ จำนวน 609 นาย ประกอบด้วย กำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 3 จำนวน 191 นาย กองพันทหารราบที่ 6 จำนวน 70 นาย กองพันทหารราบที่ 7 จำนวน 192 นาย กองพันลาดตระเวน จำนวน 94 นาย กองพันทหารช่าง 25 นาย กองพันรถถัง 4 นาย กองพันพยาบาล 25 นาย และกรมทหารราบปืนใหญ่ จำนวน 8 นาย กำลังพลดังกล่าว จะคล้ายย้ายโดยทางเรือ และสำหรับเรือที่ใช้ในการผลัดเปลี่ยน ได้แก่ เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสีชัง และเรือหลวงราวี


พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ กล่าวว่า กำลังพลที่จะไปผลัดเปลี่ยนกำลังตามหน่วยเฉพาะกิจต่าง ๆ คือตัวแทนของทหารนาวิโยธิน ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา ให้ไปปฏิบัติภารกิจในการป้องกันอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติ ฉะนั้น กำลังพลทุกนายจะต้องปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานและหลักการที่ถูกต้อง มีความซื่ออสัตย์สุจริต มีคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน นอกเหนือจากภารกิจในการปกป้องอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติแล้ว ภารกิจให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เช่น การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ การช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนาพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ให้มีความเจริญยั่งยืน โดยอาศัยพื้นฐานตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การขจัดภัยคุมคามจากยาเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งกำลังพลทุกนาย จะต้องใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายดังกล่าว