ผบ.ฉก.ม.3ชี้ทีบีซีไทยท้วงพม่า

ผบ.ฉก.ม.3ชี้ทีบีซีไทยท้วงพม่า

"ยงยุทธ"ผบ.ฉก.ม.3 ชี้ทีบีซีไทยท้วงพม่าให้ว้าตั้งฐานประชิดชายแดนเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน

วันนี้(16ก.ค.)ที่ห้องประชุมเชียงแสน ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-เมียนมาร์ ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีฝ่ายไทย เป็นประธานร่วมในการประชุมทีบีซีครั้งที่80 ร่วมกับ พ.ท.อ่อง เมี้ยนอู ผบ.กองกำลังเคลื่อนที่เร็วที่359 ในฐานะประธานทีบีซีฝ่ายเมียนมาร์ โดยเนื้อหาสำคัญขอการประชุมในครั้งนี้ เป็นกรณีการวางกำลังของกลุ่มว้าตามชายแดนด้าน จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน8 ฐานตั้งแต่ตรงกันข้าม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จนถึง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ฝ่ายไทยขอประท้วงให้ถอนกำลังและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่าง2ประเทศ

ด้านฝ่ายเมียนมาร์ได้หารือโดยระบุว่าเมื่อวันที่12ม.ค.2557 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ทหารไทยได้เข้าไปทำลายไร่ฝิ่นในเขตประเทศเมียนมาร์ ซึ่งได้รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนประมาณ500เมตร และไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายเมียนมาร์ทราบ ทำให้ทหารเมียนมาร์ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเตือนจำนวน2นัดแต่ทางฝ่ายไทยได้ทำหนังสือประท้วงอย่างรุนแรง ว่าทางเมียนมาร์ได้ยิงปืนเป็นระยะเวลานาถึง15นาที ทางฝ่ายเมียนมาร์จึงประท้วงที่ถูกรุกล้ำเขตแดนและขอให้กำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก นอกจากนี้ยังหารือว่าที่ฝั่งไทยตรงข้ามบ้านดินดำ ต.เมืองพง อ.ท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก มีการดูดทรายจนจะทำให้ตลิ่งพังและน้ำเปลี่ยนทิศทาง และพื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ

นอกจากนี้ทาง ทีบีซีเมียนมาร์ยังแจ้งอีกว่าเมื่อวันที่3ม.ค.ที่ผ่านมาได้มีชายชาวเมียนมาอายุ16ปีถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมตัวได้ที่สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่1 เชื่อม อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก และถูกทำร้ายร่างกายต่อมาทราบว่าชายคนดังกล่าวได้ขโมยของในฝั่งไทย ซึ่งทางเมียนมาร์จึงขอให้ปล่อยตัวและประท้วงที่ไม่ได้ทำตามกฎหมายต่อราษฎรเมียนมาร์ จากนั้นทางทีบีซีเมียนมาร์ก็ได้แจ้งข้อหารือเรื่องเดิมที่เคยเสนอมาแล้วหลายครั้งคือระบุว่าทหารไทยตั้งฐานจำนวน29ฐานที่ชายแดนด้านดอยลางเชื่อม จ.เชียงใหม่ กับเมียนมาร์ โดยเมียนมาร์ถือแผนที่คนละฉบับกับฝ่ายไทยที่ทำขึ้นมาใหม่จึงขอให้ถอนทหารออกไปก่อน

สำหรับกรณีการปะทะกันระหว่างทหารไทย ฉก.ทพ.31 กับขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ เมื่อวันที่19ม.ค.ที่ผ่านมา และทางการไทยสามารถจับกุมและยึดของ กลางเป็นอาวุธและยาบ้าจำนวน50,000เม็ดนั้น ทางเมียนมาร์ของทราบข้อมูลเพื่อร่วมกับปราบปรามต่อไป

นอกจากนี้ทางฝ่ายเมียนมาร์ได้จ้งถึงการปราบปรามยาเสพติดในพื้ยที่ โดยที่ผ่านมาฝ่ายเมียนจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า72 คดี ผู้ต้องเป็นชาย82คน หญิง15คน ของกลางเป็นเฮโรอีน133.34กิโลกรัม ยาบ้า183,411เม็ด คาเฟอีน8,825กิโลกรัม น้ำมันฝิ่น1,000มิลลิตร ยาไอซ์44.45กิโลกรัม ผงยาบ้า12.968กิโลกรัม จึงขอหารือแลกเปลี่ยนเรื่องการขนส่ง ลำเลียงและค้ายาเสพติดกับฝ่ายไทยดังกล่าว ก่อนที่ทีบีซีฝ่ายเมียนมาร์จะหารือเรื่องอื่นๆ เช่น ขอบคุณฝ่ายไทยกรณีจับกุมพลทหารเมียนมาที่หลบหนีออกจากฐานฝั่งเมียนมาร์พร้อมอาวุธและมาถูกจับกุมในฝั่งไทย ขอทราบความคืบหน้าการตรวจหาผู้ต้องหาฆ่าคนไทยที่ก่อเหตุฆ่าชาวเมียนมาร์จำนวน3คดี